วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2564

ปัจจัยในการสร้างสรรค์ผลงานทางดนต

 

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1  ปัจจัยในการสร้างสรรค์ผลงานทางดนตรี

 

ความเชื่อกับการสร้างสรรค์ทางดนตรี

มนุษย์ชนเผ่าต่างๆ ในสมัยโบราณมีลัทธิความเชื่อว่าชีวิตของมวลมนุษย์นั้นมีสิ่งที่มีอำนาจลึกลับเหนือมนุษย์และเหนือธรรมชาติควบคุมอยู่ มนุษย์จึงจัดให้มีพิธีกรรมบวงสรวง อ้อนวอนขอความคุ้มครองจากสิ่งลึกลับตามที่ตนเชื่อ ซึ่งในพิธีกรรมมักมีดนตรีบรรเลงประกอบการฟ้อนรําและการขับร้องเพลงสังเวย เนื่องจากเชื่อว่าจะทําให้สิ่งลึกลับนั้นโปรดปรานแล้วให้ในสิ่งที่ตนต้องการ

ชาวกรีกโบราณเชื่อว่านักร้องและนักดนตรีเป็นทูตสวรรค์ ผู้นําคําสอนของพระเจ้ามาสื่อสารกับมวลมนุษยชาติ ผ่านเสียงบรรเลงดนตรีและขับร้อง นักร้องนักดนตรีจึงเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน ลัทธิความเชื่อนี้ทําให้เกิด นักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงผู้สร้างสรรค์ ผลงานดนตรีอย่างมากมาย

มนุษย์สมัยดึกดําบรรพ์มีลัทธิความความเชื่อว่า ตนเองสามารถใช้เสียงดนตรีเป็นเครื่องมือสื่อสารและควบคุมสรรพสิ่งในธรรมชาติ เช่น ใช้เรียกสิ่งดีๆ ให้มาหา ใช้ขับไล่ความชั่วร้ายให้หนีไปใช้ป้องกันและบำบัดโรคภัยไข้เจ็บ ใช้เรียกลมฝน ช่วยบันดาลให้พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ ช่วยให้ออกหาปลาล่าสัตว์ได้อย่างปลอดภัยและประสบผลสําเร็จ

1.ชาวฮินดูเชื่อว่าพระพรหมเป็นผู้สร้าง 2.ชาวจีนเชื่อว่าสเกลเสียงดนตรีมาจากนกฟีนิกช์

3.ชาวอียิปต์เชื่อว่าดนตรีเป็นของขวัญจากเทพเจ้าโอชิริส 4.ชาวยิวเชื่อว่าจูบาสเป็นบุตรของ อดัม มนุษย์คนแรกของโลกเป็นผู้ผลิตฮาร์ปและออแกน 5.ชาวแอฟริกันโบราณเชื่อว่าเสียงกลองสามารถสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใช้ขจัดปัดเป่าภยันตราย ใช้บําบัดรักษาคนไข้ ใช้ประกอบการเต้นรํา เพื่อปลุกใจให้ฮึกเหิมในยามสู้รบ 6.ชาวเขาเผ่าม้งในประเทศไทย เชื่อว่าเสียงแคนจะช่วยส่งวิญญาณ ให้เดินทางไปพบญาติผู้ล่วงลับไปก่อนหน้าแล้วภายในเวลา ๗ วัน เป็นต้น

 

 

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ฮินดู พระพรหมผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นกฟีนิกซ์ แฮรี่ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โอซิริสผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ฮาร์ป       ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ออร์แกนผลการค้นหารูปภาพสำหรับ afican musicผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แคนเผ่าม้ง

 

สําหรับคนไทยก็ใช้เสียงเพลงและดนตรีในพิธีกรรมต่างๆ อย่างมากมาย เช่น1. คนไทยภาคกลางใช้วงปี่พาทย์บรรเลงในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ 2.คนไทยภาคเหนือใช้กลองนานาชนิดตีในพิธีกรรมที่หลากหลาย

3.คนไทยภาคอีสานใช้แคนประกอบลำในพิธีบําบัดคนไข้ 4.คนไทยภาคใต้ใช้ปี่กาหลอบรรเลงในงานศพ

 

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ วงปี่พาทย์ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กลองภาคเหนือผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หมอแคนผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ปี่กาหลอ

 

ศาสนากับการงานสร้างสรรค์ทางดนตรี

มนุษย์รู้จักพัฒนาลัทธิความเชื่อในสิ่งลึกลับเหนือธรรมชาติให้กลายเป็นความเลื่อมใส ศรัทธาในศาสนาที่มี พระศาสดาเป็นผู้ให้พระธรรมคําสอน แต่ยังคงมีการใช้เสียงบรรเลงดนตรี และการขับร้องเพลงเป็นส่วนประกอบของพิธีกรรมตามศาสนา

คริสต์ศาสนิกชนทั้งนิกายโรมันคาทอลิก และนิกายโปรเตสแตนต์ใช้เพลงขับร้องประกอบดนตรีใน ศาสนพิธี มีพระผู้ใหญ่ที่เป็นทั้งพระและสังคีตกวีได้สร้างผลงานดนตรีขึ้นในทางศาสนาเป็นจํานวนมาก

 

ปัจจัยในการสร้างสรรค์ผลงานดนตรีสากล

              1. ความเชื่อ อยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ  ซึ่งในปัจจุบันมนุษย์ก็ยังคงมีความเชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมชาติ เช่น การนับถือบูชาผีสาง เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ดังนั้น จึงมีการประกอบพิธีกรรมเพื่อแสดงถึงความเคารพบูชา  องค์ประกอบต่างๆของการนำมาประกอบพิธีกรรมนั้น ส่วนหนึ่งจะเป็นเครื่องเซ่นไหว้ เช่น พวงมาลัย อาหาร ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ดนตรี ซึ่งต้องเป็นดนตรีที่มีคุณค่าทางสุนทรียศาสตร์ ดนตรีที่เกิดขึ้นจากความเชื่อจึงทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบในพิธีกรรมหรือเรียกว่า ดนตรีพิธีกรรม (Ritual music) เช่น การประกอบพิธีไหว้ครูดนตรีและนาฏศิลป์ เป็นต้น

            2. ศาสนา นับเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของมนุษย์ ซึ่งนอกจากความเชื่อในการนับถือสิ่งเหนือธรรมชาติแล้ว มนุษย์ก็ยังมีความเชื่อและศรัทธาในศาสนา ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาก็มีการสร้างสรรค์เพื่อนำมาใช้ประกอบพิธีกรรม เช่น ในศาสนาคริสต์ได้นำเพลงสวดมาขับร้องเพื่อใช้ในขั้นตอนต่างๆของพิธีแมส (Mass) หรือพิธีมิสซา (Missa) เป็นต้น ในส่วนศาสนาพุทธก็มีการดนตรีในการบรรเลงประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น งานบวช งานศพ งานเทศน์มหาชาติ เป็นต้น

3. วิถีชีวิต มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ดนตรีเป็นอย่างมาก ดนตรีที่สร้างสรรค์ขึ้นจากวิถีชีวิตของมนุษย์ในทางวิชาการเรียกว่า ดนตรีชาวบ้าน ( Secula Music)  ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนยุคกรีกโบราณ เป็นดนตรีที่สร้างสรรค์จากวิถีชีวิตของมนุษย์เกิดจากความต้องการที่จะบรรยาย พรรณนาเรื่องราว ถ่ายทอดอารมณ์  ความรู้สึกผ่านบทเพลง หรือเพื่อเป็นการนันทนาการ  ผ่อนคลายความเครียดและให้ความบันเทิงแก่ผู้คน เช่น การแสดงอุปรากร (Opera) ของชาวยุโรป การแสดงโขนของไทย การแสดงละครคาบูกิ (Kabuki) ของชาวญี่ปุ่น

4. เทคโนโลยี เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ดนตรีได้รับการสร้างสรรค์และพัฒนา การพัฒนาเทคโนโลยีส่งผลต่อการพัฒนาดนตรี และในทางกลับกันดนตรีก็ทำให้เทคโนโลยีปรับตัวตามไปด้วย ช่วยทำให้เกิดการพัฒนาในดนตรีมาตั้งแต่สมัยโบราณเห็นได้ชัดจากการนำเอาวิธีคิดของ พีทาโกรัส (Pythagoras) นักปราชญ์ชาวกรีก มาช่วยในการปรับปรุงระบบการตั้งบันไดเสียงในดนตรีสากล  โดยการนำไปประยุกต์พัฒนาวิธีการปรับปรุงบันไดเสียงให้ได้ตามที่เทคนิคและรูปแบบของดนตรีที่เปลี่ยนไป ในด้านเทคโนโลยีการบันทึกเสียง  ก็ได้รับการพัฒนาให้คุณภาพเสียงมีความใกล้เคียงเสียงดนตรีจริง ส่งผลให้มีการทำซ้ำและเผยแพร่ออกไปสู่มวลชนได้รวดเร็ว  เป็นการกระตุ้นให้นักประพันธ์ดนตรีสร้างสรรค์งานในรูปแบบใหม่ๆ ออกมาจำนวนมาก โดยเฉพาะดนตรีสมัยนิยมที่เกิดขึ้นในเชิงพาณิชย์  ทำให้ดนตรีมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนารูปแบบออกไปในช่วงเวลาที่สั้นลงกว่าในสมัยก่อน  โดยมีการเปลี่ยนแปลงประมาณทุก 2-5 ปี อย่างที่เรามีคำศัพท์เรียกรูปแบบดนตรีเพลงที่ได้รับความนิยมในช่วงหนึ่งเป็นทศวรรษ เช่น ดนตรีสมัย 60s (Sixties) หรือ 70s (Seventies)

 นักเรียนคิดว่าปัจจัยในด้านใดที่มีผลต่อการสร้างสรรค์ผลงานดนตรีในปัจจุบันมากที่สุด เพราะอะไร ให้อธิบายแนวคิดของตัวเองตามความเข้าใจ

 

 

 

 

 



 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น