บทที่ 4 คุณค่าและความงามของดนตรีสากล
วีถีการดำเนินชีวิตของคนในปัจจุบันนี้
ไม่อาจหนีรอดจากอิทธิพลของเสียงดนตรีไปได้ ไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่ที่ไหน
เมื่อไรที่ได้ยินเสียงดนตรีสอดแทรกเข้ามาแวดล้อมเราอยู่เกือบทุกเวลาทุกสถานที่ อาจเป็นทั้งเสียงดนตรีที่เราชื่นชอบและเสียงดนตรีที่ไม่พึงประสงค์จะได้ยิน
ดนตรีเป็นปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งที่มนุษย์ทุกชนเผ่าสร้างสรรค์ขึ้นมาใช้บรรเลงเป็นพื้นหลัง
(Background) สนับสนุนการดำเนินชีวิตทั้งในยามสุขและยามเศร้าตั้งแต่สมัยโบราณ
ปัจจุบันดนตรีเข้ามามีส่วนในชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันของมนุษย์ทุกเพศทุกวัยทุกชนชาติ
ดนตรีเป็นอาหารของความคิด สามารถถ่ายเทอารมณ์จากความเครียดไปสู่การผ่อนคลาย
สามารถปลุกและปลอบประโลมใจให้สดชื่น สามารถเชิญชวนให้ผู้ฟังลุกขึ้นมากระโดดเล่น
เต้นรำ สามารถปลุกใจให้ฮึกเหิม กล้าหาญ สามารถก่อให้เกิดความรัก
ความภาคภูมิใจในความเป็นหมู่ชาติ
สามารถกล่อมเกลาจิตใจให้มีความอ่อนโยนและเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนาและดนตรียังช่วยทำให้เกิดศิลปะการแสดงต่างๆ
อีกมากมายหลายสาขา
หากเรารู้จักเลือกใช้เครื่องดนตรีที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตแล้ว
ดนตรีมีคุณค่าต่อวิถีการดำเนินชีวิตของเราอย่างมากมาย เช่น ใช้ดนตรีเป็นเครื่องขับกล่อมตนเองเป็นการส่วนตัวทั้งในยามสุขและยามเศร้า
คุณค่าและความงามของดนตรีสากล
ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตมนุษย์
มนุษย์รู้จักนำดนตรีมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์
หลังจากที่มนุษย์รู้จักการจดบันทึกข้อมูล
จึงทำให้คนรุ่นหลังได้ทราบประวัติความเป็นมาของดนตรี การศึกษาประวัติศาสตร์ดนตรี
ทำให้เราเข้าใจมนุษย์ด้วยกันมากขึ้น เข้าใจวิถีชีวิตความเป็นอยู่
และเข้าใจการสืบทอดทางวัฒนธรรมดนตรี การกำเนิดของเครื่องดนตรีเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยโบราณ
โดยมนุษย์รู้จักการสร้างเครื่องดนตรีง่าย ๆ จากธรรมชาติรอบข้างคือ
เริ่มจากการปรบมือผิวปาก เคาะหิน
หรือนำกิ่งไม้มาตีกันซึ่งต่อมาได้มีการสร้างเครื่องดนตรีที่มีรูป ทรงลักษณะต่าง ๆ
ที่แตกต่างกันไปในแต่ละชนชาติ โดยมีการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมและลักษณะเครื่องดนตรีของชนชาติต่าง
ๆ โดยเฉพาะเครื่องดนตรีสากลที่เป็นเครื่องดนตรีของชาวตะวันตกที่น ำมาเล่นกัน
แพร่หลายในปัจจุบัน สำหรับการกำเนิดของดนตรีตะวันตกนั้นมาจากเครื่องดนตรีของชนชาติ
กรีกโบราณที่ สร้างเครื่องดนตรีขึ้นมา 3 ชนิดคือ ไลรา คีธารา และออโรสจนต่อมามีการพัฒนาสร้างเครื่องดนตรีประเภทต่าง
ๆ ทั้งประเภทเครื่องสายเครื่องเป่า เครื่องทองเหลือง เครื่องตี
และเครื่องดีดหรือเครื่องเคาะ เช่นไวโอลิน ฟลุต ทรัมเป็ต กลองชุด กีตาร์
ฯลฯโดยพบเครื่องดนตรีสากลได้ในวงดนตรีสากลประเภทต่าง ๆ
ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน
การสืบสาวเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของดนตรีตั้งแต่สมัยโบราณมา
นับว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้ได้เรื่องราว
สมัยของการรู้จักใช้อักษรหรือสัญลักษณ์อื่นๆ
เพิ่งจะมีปรากฏและเริ่มนิยมใช้กันในสมัยเริ่มต้นของยุค Middle
age คือระหว่างศตวรรษที่ 5 - 6 และการบันทึกมีเพียงเครื่องหมายแสดงเพียงระดับของเสียง
และจังหวะ ( Pitch and time ) ดนตรี เกิดขึ้นมาในโลกพร้อม ๆ
กับมนุษย์เรานั่นเอง ในยุคแรกๆมนุษย์อาศัยอยู่ในป่าดง ในถ้ำ ในโพรงไม้
แต่ก็รู้จักการร้องรำทำเพลงตามธรรมชาติ เช่น รู้จักปรบมือ เคาะหิน เคาะไม้ เป่าปาก
เป่าเขา และเปล่งเสียงร้องตามเรื่อง
การร้องรำทำเพลงไปเพื่ออ้อนวอนพระเจ้าเพื่อช่วยให้ตนพ้นภัย
บันดาลความสุขความอุดมสมบูรณ์ต่างๆให้แก่ตน
หรือเป็นการบูชาแสดงความขอบคุณพระเจ้าที่บันดาลให้ตนมีความสุขความสบาย
โลกได้ผ่านหลายยุคหลายสมัย ดนตรีได้วิวัฒนาการไปตามความเจริญและความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์
เครื่องดนตรีที่เคยใช้ในสมัยเริ่มแรกก็มีการวิวัฒนาการมาเป็นขั้น ๆ
กลายเป็นเครื่องดนตรี ที่เราเห็นอยู่ทุกวัน เพลงที่ร้องเพื่ออ้อนวอนพระเจ้า
ก็กลายมาเป็นเพลงสวดทางศาสนา และเพลงร้องโดยทั่ว ๆ ไป
ในระยะแรก ดนตรีมีเพียงเสียงเดียวและแนวเดียวเท่านั้นเรียกว่า Melody
ไม่มีการประสานเสียง จนถึงศตวรรษที่ 12 มนุษย์เราเริ่มรู้จักการใช้เสียงต่าง
ๆ มาประสานกันอย่างง่าย ๆ เกิดเป็นดนตรีหลายเสียงขึ้นมา
การศึกษาวิชาประวัติดนตรีตะวันตกหลายคนคงคิดว่าเป็นเรื่องไกลตั วเหลือเกิน
และมักมีคำถามเสมอว่าจะศึกษาไปทำไมคำตอบก็คือ
ดนตรีตะวันตกเป็นรากเหง้าของดนตรีที่เราได้ยินได้ฟังกันทุกวันนี้ความเป็นมาของดนตรีหรือประวัติศาสตร์ดนตรีนั้นหมายถึงการมองย้อนหลังไปในอดีตเพื่อพยายามทำความเข้าใจกับแง่มุมต่าง
ๆ ของอดีตในแต่ละสมัยนับเวลาย้อนกลับไปเป็นเวลาหลายพันปีจากสภาพสังคมที่แวด
ล้อมทัศนะคติและรสนิยมของผู้สร้างสรรค์และผู้ฟังดนตรีในแต่ละสมัยนั้นแตก
ต่างกันอย่างไรจากการลองผิดลองถูกลองแล้วลองอีกการจินตนาการตาม แนวคิดของผู้
ประพันธ์เพลงจนกระทั่งกลั่นกรองออกมาเป็นเพลงให้ผู้คนได้ฟังกันจนถึงปัจจุบันนี้
การศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์
หรือการมองย้อนกลับไปในอดีตนั้นนอกจากเป็นไปเพื่อความสุขใจในการได้ศึกษา เรียนรู้
และรับทราบเรื่องราวของอดีตโดยตรงแล้ว
ยังเป็นการศึกษาเป็นแนวทางเพื่อทำความเข้าใจดนตรีที่เกิดขึ้นและการเปลี่ยนแปลงในแง่ของดนตรีในปัจจุบัน
และเพื่อนำมาใช้ในการทำนายหรือคาดเดาถึงแนวโน้มของดนตรีในอนาคตด้วย
ดนตรีเกิดขึ้นมาพร้อมกับมนุษย์
และถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์
มนุษย์รู้จักการสร้างเสียงดนตรีเพื่อใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร เช่น การตีเกราะ
เคาะไม้ การเป่าเขาสัตว์ การเป่าใบไม้ เพื่อส่งสัญญาณต่าง ๆ มนุษย์รู้จักการร้องรำทำเพลง
เพื่อให้หายเครียด เพื่อความบันเทิง หรือเพื่อการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ
กิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องของเสียงดนตรี
มนุษย์ได้ทำให้เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติของมนุษย์มาโดยตลอด
ต่อมาเมื่อมนุษย์ได้สนใจดนตรีในด้านศิลปะ ดนตรีจึงได้วิวัฒนาการขึ้นตามลำดับ
1.ใช้ดนตรีเป็นมหรสพเพื่อความบันเทิงและเพื่อการเฉลิมฉลอง
2.ใช้ดนตรีเป็นเครื่องปลุกเร้าให้เกิดความรักสามัคคีในหมู่คณะในท้องถิ่นและในประเทศชาติ
3.ใช้ดนตรีเป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนา
4.ใช้ดนตรีสื่อความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมต่างๆ
ทางศาสนาและลัทธิความเชื่อ
5. ใช้ดนตรีเป็นเครื่องสื่อสารติดต่อกันในชนเผ่าและเชื่อว่าใช้ติดต่อกับสิ่งที่มีอำนาจเหนือมนุษย์ได้
6.ใช้ดนตรีเสริมความสง่างามและความภูมิฐานของพิธีการ
7. ใช้ดนตรีประกอบกิจกรรมการทำงาน การออกกำลังกาย
การเดินทาง การต่อสู้กับข้าศึกศัตรูในยามสงคราม
เพื่อให้เสียงดนตรีช่วยผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อย
ช่วยทำให้ลืมอุปสรรคและปลุกใจฮึกเหิมกล้าหาญ
8. ใช้ดนตรีเป็นส่วนช่วยในการบำบัดรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยทั้งทางกายและทางจิต
และใช้เป็นส่วนประกอบของกระบวนการเรียนการสอนเช่น ใช้เป็นสื่อการสอน
ใช้ช่วยฝึกสมาธิ ใช้ช่วยกระตุ้นความทรงจำ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น