หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคมไทยต่อดนตรีไทย
โลกปัจจุบันมีพัฒนาการทั้งทางด้านสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ
และการเมืองการปกครองอย่างรวดเร็ว มีการรวมกลุ่มประเทศเข้าเป็นระบบเดียวกัน มีความเจริญก้าวหหน้าทางด้านการผลิต การค้า
ด้านวิทยาการที่เกี่ยวข้องกับการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์
มีการสื่อสารผ่านระบบดาวเทียม
ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่าส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการดำรงชีวิตของคนทั่วโลก
และอาจส่งผลต่อค่านิยมของสังคมไทยที่มีต่อดนตรีได้
โดยในที่นี้จะกล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลให้ค่านิยมของสังคมไทยต่อดนตรีไทยเปลี่ยนแปลงไป
ดังนี้
1. กระแสความนิยมวัฒนธรรมตะวันตก
กระแสวัฒนธรรมตะวันตก
เป็นค่านิยมในสังคมไทยที่ปรากฏชัดเจนตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อคนไทยได้มีโอกาสไปศึกษาต่อยังประเทศในแถบยุโรปและอเมริกา
กลุ่มคนดังกล่าวได้มีโแอกาสเรียนรู้และดำเนินชีวิตตามแนววัฒนธรรมที่แตกต่างไปจากประเพณีและวัฒนธรรมไทย
เมื่อกลุ่มคนเหล่านี้กลับมาประเทศไทยก้ได้นำแนวคิด รูปแบบการดำเนินชีวิต
และค่านิยมตะวันตกมาสู่สังคมไทยด้วย
ซึ่งค่านิยมบางประการก็ได้สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
โดยเฉพาะรสนิยมในด้านความบันเทิงของคนไทยในด้านการชม การฟัง และบรรเลงดนตรีก็ได้เปลี่ยนแปลงไป
ซึ่งลักษณะดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อดนตรีไทย
เพราะคนไทยจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจดนตรีไทยลดลงไปจากเดิมมาก
2.ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งต่อการเปลี่ยนแปลงดนตรีไทยและวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง
ค่านิยมของคนไทยในการนำวงดนตรีไทยไปบรรเลงในงานพิธีกรรมต่างๆ เริ่มลดน้อยลง
แม้การประกอบอาชีพดนตรีัของศิลปินไทยยังคงมีอยู่ แต่ได้เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการรวมวงของศิลปินรุ่นใหม่
รับงานบรรเลงในสังคมร่วมสมัย
บางส่วนรวมศิลปินมีชื่อเสียงนำเสนอเพลงไทยคุณภาพด้วยการบันทึกผลงานแผ่นซีดี หรือ
ในระบบอินเตอร์เน็ต
ซึ่งความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในลักษณะดังกล่าวได้มีส่วนทำให้แนวโน้มดนตรีไทยปรับเปลี่ยนไป
3. ระบบการศึกษาวิชาการดนตรีไทย
ในอดีตการศึกษาวิชาการดนตรี
บุตรหลานของศิลปินจะได้รับการฝึกหัดและเรียนดนตรีไทยภายในครอบครัวของตนที่เป็นเสมือนสำนักดนตรี
ส่วนบรรดาเด็กๆ ที่มิใช่บุตรหลานของครูดนตรี
ผู้ปกครองก็จะนำไปฝากตัวเป็นศิษย์ของครู
เพื่อเรียนดนตรีในสำนักดนตรีหรือประจำวงดนตรีของครู ใช้สำนักของครูเป็นที่เรียน
ที่อยู่ ที่กิน
และเป็นแหล่งฝึกประสบการณ์อาชีพดนตรี
เด็กเหล่านี้จึงมีโอกาสเรียนรู้ดนตรีไทยจากครูดนตรีโดยตรง โดยการเรียนดนตรีจะเริ่มตั้งแต่เช้า
เพื่อซ้อมเพลงร่วมกัน พอสายก็ต่อเพลงจากครู
ในบางวันหากมีงานบรรเลงซึ่งมีผู้ติดต่อว่าจ้าง เด็กเหล่านี้ก็จะไปปฏิบัติหน้าที่เป็นนักดนตรี จึงได้ทั้งความรู้
ทักษะทางดนตรีและได้ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ เมื่อเติบโตก็กลายเป็นนักดนตรีที่ดี มีฝีมือ และศิลปินเต็มตัว แต่ในปัจจุบันรูปแบบการเรียนดนตรีไทยได้เปลี่ยนแปลงไป
เป็นการเรียนดนตรีตามหลักสูตรการศึกษา เนื้อหาที่เรียนจะเกี่ยวกับสาระดนตรีทั่วๆไป
โดยผู้ที่สนใจดนตรีไทยก็จะต้องเลือกเรียนในสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนด้านดนตรีโดยเฉพาะ ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่หลายสถาบันด้วยกัน เช่น
โรงเรียนมัธยมสังคีต
วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เป็นต้น
4. การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนไทย
วิถีชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่ได้ปรับเปลี่ยนแตกต่างไปจากโครงสร้างวิถีชีวิตวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจและความเร่งรีบในการดำเนินชีวิต
ทำให้ผู้คนในปัจจุบันมีโอกาสน้อยที่ที่ใช้เวลากับประเพณีและกิจกรรมต่างๆอย่างที่พ่อแม่
ปู่ย่า ตายาย
ได้เคยใช้วิถีชีวิตเช่นนั้นมาทำให้คนไทยในปัจจุบันปรับเปลี่ยนค่านิยมของตนต่อดนตรีไทย
โดยบรรดากิจกรรมที่ประกอบกันจนเป็นประเพณี พิธีกรรม ความเชื่อ ที่มีมาแต่เดิมก็ห่างออกไป
รวมทั้งเกิดช่องว่างของคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่
ซึ่งช่องว่างดังกล่าวได้ส่งผลโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงค่านิยมของสังคมไทยที่มีต่อดนตรีไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น