วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

Popula Concert สำหรับประชาชน ณ สถานที่กาแฟนรสิงห์


งานประจำปีในระหว่างฤดูร้อน
แสดงการบรรเลงแบบ Poppula Concert สำหรับประชาชน
ณ สถานที่กาแฟนรสิงห์
                        กาแฟนรสิงห์ ( Café’ Norasingh ) เป็นสถานที่ๆตั้งอยู่มุมถนนศรีอยุธยา ซึ่งบัดนี้ถูกรื้อถอนลงหมดสิ้นแล้ว สถานที่นี้พระมงกุฏเกล้าฯ ได้ทรงสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้อาศัยเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและได้ทรวมอบกิจการของสถานที่นี้ให้เป็นหน้าที่ของกรมมหรสพ นอกจากสถานที่ Café’ Norasingh ซึ่งเป็นสถานที่ว่างและเครื่องดื่มแล้วยังได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างกระโจมแตรถาวรขนาดใหญ่ขึ้นในที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย เพื่อใช้สำหรับเป็นที่ตั้งทำการบรรเลงดนตรีให้ประชาชนฟัง มีทั้งวงดุริยางค์สากลและวงดนตรีปี่พาทย์สลับรายการกันทุกๆวันอาทิตย์ตอนเย็นเริ่มแต่เวลา ๑๗.๐๐ น. ถึง ๑๙.๐๐ น. ตามบริเวณหน้สกระโจมมีโต๊ะและเก้าอี้จัดไว้รับรองสำหรับประชาชนประมาณ ๓๐๐ ถึง ๔๐๐ คน การเข้านั่งฟังการบรรเลงนี้ไม่ต้องเสียเงินค่าผ่านประตูแต่มีกฎเกณฑ์ไว้ว่าผู้ที่เข้ามานั้นต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อยเท่านั้น การบรรเลงเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนมิถุนายน เพราะหลังจากนั้นจะเข้าฤดูฝนการบรรเลงกลางแจ้งเช่นนี้ไม่สะดวกด้วยเหตุหลายประการ วงดุริยางค์และวงปี่พาทย์ได้ทำการบรรเลงเป็นงานประจำปีจนสิ้นรัชสมัยของพระองค์ ข้าพเจ้ายังระลึกได้ว่าทุกๆคราวที่มีการบรรเลง ลานพระบรมรูปทรงม้ามุมถนนศรีอยุธยานั้นคับคั่งไปด้วยรถยนต์ประดุจมีงานมโหฬาร ซึ่งส่วนมากเป็นชาวต่างประเทศที่พากันมาฟังเฉพาะในวันที่มีการบรรเลงดนตรีสากล ประชาชน
พ.ศ. ๒๔๖๕       ทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
พ.ศ. ๒๔๖๖       อย่างล้นเหลือถึงกับได้โฆษณากล่าวขวัญสดุดีพระองค์ในหน้าหนังสือพิมพ์รายวันอยู่เนืองๆ นอกจากงานภายในส่วนพระองค์แล้วงานสำคัญๆ ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้วงดุริยางค์ไปบรรเลงสำหรับประชาชนก็มีงานเฉลิมพระชนม์พรรษา งานสภากาชาด และงานฤดูหนาว เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นงานประจำปีทั้งสิ้น งานนี้ได้จัดให้มีขึ้นที่สวนจิตต์ลดาบ้าง ที่สวนสราญรมย์บ้าง เป็นงานประจำ ๗ วัน ๗ คืน วงดุริยางค์ต้องไปปฏิบัติงานตั้งแต่ค่ำจนใกล้รุ่ง นอกจากนี้ก็ยังมีงานตามสถานฑูตเป็นงานวันชาติของชาติต่างๆ ที่ตั้งสถานฑูตอยู่ในกรุงเทพฯ นี้ เช่น สถานฑูตอังกฤษ, อเมริกา, อิตาลี กับในการต้อนรับจอมพล Joffre ก็ได้มีที่สถานฑูตฝรั่งเศส องค์การต่างประเทศที่สำคัญๆก็ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เสมอ เช่น The British Legion, Alliance, Frangaise, St. Andrew’s Ball กับในงานกีฬาต่างๆ เช่น การแข่งขันชิงถ้วย Foodball การแข่งม้าที่ราชกรีฑาสโมสร และที่ราชตฤณมัย เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ได้แพร่ออกทั่วๆไปเสมอ


กองแตรวง (Brass Band) กรมเสือป่าพรานหลวงและกรมม้าหลวง
พ.ศ. ๒๔๖๑       กองแตรวงกรมเสือป่าพรานหลวงและม้าหลวงได้จัดตั้งขึ้นเป็นกองแตรวง ๒ หน่วยต่างกัน เพื่อประกอบกิจการของเสือป่าซึ่งเป้นราชการอีกส่วนหนึ่งในพระราชสำนัก
พ.ศ. ๒๔๖๓       แตรวงทั้ง ๒ หน่วยนี้ ได้จัดตั้งขึ้นตามแบบที่เรียกว่า Brass Band คือ ประกอบด้วยเครื่องทองเหลืองล้วนๆ ใช้ในการบรรเลงสำหรับประชาชนและในการนำแถวเสือป่า ส่วนนักดนตรีนั้นใช้ผู้ที่ประจำอยู่ในวงดนตรีฝรั่งหลวง ต่อมาเมื่อพระองค์เสด็จสววคตแล้วแตรวงทั้ง ๒ หน่วยนี้ก็ได้ถูกยุบเลิกไปพร้อมทั้งกรมเสือป่าด้วย จึงนับได้ว่าในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้านี้ศิลปกรรมการดนตรีทั้งไทยและสากลได้ก้าวหน้าขึ้นสู่ความเจริญเป็นอันมากเพราะนอกจากวงดุริยางค์สากลส่วน
พ.ศ. ๒๔๖๕     พระองค์แล้ว แตรวงของกองทัพบกก็ดี ของกองทัพเรือก็ดี และของกรมรักษาวัง
พ.ศ. ๒๔๖๗       ก็ดี ก็ได้เจริญรอยตามขึ้นไปด้วย ฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่าประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ ๖ เป็นสมัยที่ศิลปกรรมทุกๆ สาขารุ่งเรืองอย่างน่าภาคภูมิใจยิ่ง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น