ในรัชสมัยของสมเด็จพระปกเกล้าฯ
พ.ศ.
๒๔๖๘ ต้นรัชสมัยของสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้บังเกิดความเศร้าสลดใจแกบรรดา
พศกนิกรไทยทั้งมวลและโดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่บรรดาข้าราชการในพระราชสำนักของพระองค์
ด้วยการสววณคตของสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖
สืบเนื่องจากการสววณคตนั้นแล้ว
ประเทศไทยก้อตกอยู่ในรัชสมัยของพระปกเกล้าฯ ในระหว่างเวลานั้น
วงดนตรีสากลซึ่งเดิมเรียกว่าวงดนตรีฝรั่งหลวงต้องชงักงานการบรรเลงไปชั่วคราวแต่ต่อมาภายหลังก็ได้ทีการบรรเลงเป็นปกติอีก
โดยสมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงมีพระกรุณาธิคุณเป็นองค์อุปภัมภ์
กิจการของวงดนตรีในตอนต้นๆ
ของรัชสมัยนี้ได้บังเกิดการระส่ำระส่ายขึ้น
สืบเนื่องมาจากสาเหตุที่มีการเปลี่ยนแปลงในวงราชการของพระราชสำนัก
การเปลี่ยนแปลงได้มากระทบกระเทือนไปถึงหน่วยราชการทั่วๆไปรวมทั้งวงดนตรีนี้ด้วยอนาคตของวงดนตรีฝรั่งหลวงนี้ได้นำข่าวต่างๆ
ซึ่งล้วนแต่เป็นข่าวอกุศลทั้งสิ้น โดยกล่าวกันว่าจะต้องถูกยุบเลิกล้มไป
และข่าวต่อมาว่าจะอยู่ได้แต่ต้องลดจำนวนนักดนตรีลงเป็นวงดนตรีย่อยๆ ข่าวอกุศลต่างๆ
เหล่านี้ทำให้ข้าพเจ้าวิตกและกังวลใจเป็นอันมาก
ทั้งรู้สึกเศร้าสลดใจเมื่อรำถึงคำขวัญของบิดาข้าพเจ้าที่ได้กล่าวไว้ในระหว่างที่ท่านป่วยหนักนั้น
ใกล้จะเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว
ข้าพเจ้าจึงคอยสดับตรับฟังเหตุการณ์คลี่คลายอย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใยยิ่ง
ครั้นต่อมาการเปลี่ยนแปลงในวงราชการพระราชสำนักได้ปรากฏขึ้นมาจริงดังคาดหมายไว้
ยังส่งผลให้กระทบกระเทือนมาสู่กรมมหรศพเป็นขั้นแรก
กรมมหรศพนี้ต้องถูกยุบเลิกล้มไปพร้อมกับกรมเสือป่าพรานหลวงและม้าหลวงกรมที่เหลืออยู่ถูกลดฐานะลงเป็นกองเป็นหน่วยย่อยๆ
ไปหมด ศิลปินในกรมโขนและ
ปี่พาทย์ถูกปลดไปเป็นส่วนมากมีจำนวนเหลือเพียงปฏิบัติราชการได้บ้างเล็กๆ
พ.ศ.
๒๔๖๙ น้อยๆ เท่านั้น สำหรับวงดนตรีฝรั่งหลวงถูกย้ายจากสโมสรเสือป่าไปอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในกรมอัศวราช
(ราชตฤณมัยเดี๋ยวนี้) เพื่อรอคอยชะตากรรมของวง
ต่อมาวันหนึ่งข้าพเจ้าถูกเชิญตัวไปพบกับท่านผู้บัญชาการพระราชสำนักเพื่อปรึกษากิจการของวงดนตรีฝรั่งหลวงนี้
ความประสงค์ของท่านผู้บัญชาการนั้นไม่แต่จะลดจำนานนักดนตรีให้น้อยลงกว่าเดิมอย่างเดียวเท่านั้น
ซ้ำยังต้องการให้รักดนตรีเหล่านี้สามารถปฏิบัติหน้าที่อื่นๆไปได้ด้วย คือ ต้องเป็นนักดนตรี,
บรรเลงในวงดนตรีฝรั่งและวงดนตรีปี่พาทย์, ต้องเต้นโขน, ต้องรับการฝึกหัดเดินโต๊ะ
เพื่อทำหน้าที่นี้ต่อเมื่อมีราชการในการเลี้ยงใหญ่
ท่านผู้บัญชาการนี้ต้องการให้ศิลปินคนหนึ่งๆ
ปฏิบัติงานได้หลายๆอย่างเช่นนี้โดยมิได้คำนึงถึงผลของงานที่จะต้องเสียไปเพราะประสงค์แต่ให้ทุ่นงบประมาณเท่านั้น
ข้าพเจ้าถูกรับหน้าที่พิจารณาโครงการเปลี่ยนแปลงนี้และให้เสนอความเห็นขึ้นไปในเร็ววัน
วงดนตรีฝรั่งหลวงเคยดำเนินราชการไปด้วยดีตลอดมาแต่บัดนี้กำลังจะประสพกับความวิบัติ
คุณความดีของศิลปินที่เขาได้ปฏิบัติราชการมาด้วยความสุจริตและพากเพียรกำลังจะได้รับผลร้ายตอบแทน
ข้าพเจ้านำข่าวเปลี่ยนแปลงปรึกษาหารือในหมู่ศิลปินของข้าพเจ้าด้วยกันทุกคนต่างลงความเห็นว่า
การดำเนินงานในแบบใหม่นี้คือความหายนะของพวกเขา
ไม่มีใครจะสามารถปฏิบัติงานหลายอย่างให้ได้ผลดีในเวลาเดียวกันได้
ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นหัวหน้าวงได้พิจารณาโดยยรอบคอบแล้วเห็นว่าไม่มีทางใดเหลืออยู่นอกจากจะได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาโดยผ่านทางราชองครักษ์ซึ่งเมื่อทรงได้รับทราบแล้วก็ตกพระทัยและกล่าวว่า
“นี่อะไรกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีจุดจำนงจะบำรุงดนตรีวงนี้ให้เจริญยิ่งขึ้นและเรื่องเปลี่ยนแปลงของวงดนตรีเช่นนี้ก็ไม่เคยทราบถึงพระกรรณเลย” ในที่สุดคำกราบบังคมทูลของข้าพเจ้าก็ถูกนำขึ้นถวาย ผลคั่นสุดท้าย คือ ข้าพเจ้าได้รับพระราชเสาวณีย์ให้ปฏิบัติไปเช่นเดิมทุกประการเพื่อความเจริญก้าวหน้าของศิลปินด้านนี้
เมื่อเหตุร้ายกลายเป็นดีจึงไม่ต้องสงสัยว่าข้าพเจ้าจะมิได้รับความเครียดแค้นจากท่านผู้บังคับบัญชาของข้าพเจ้า
เพราะท่านเคยกล่าวแก่ข้าพเจ้าด้วยความคิดแคบๆ ว่า “นี่มันเมืองไทย
จะเอาดนตรีฝรั่งมาไว้ทำไมกัน”
จึงขอให้ท่านผู้อ่านได้ใคร่ครวญดูเถิดว่า
การดิ้นรนของข้าพเจ้านำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าให้แก่วงดนตรีวงนี้ในเมื่อต้องมาถูกต่อต้านกับอุดมคติของผู้บังคับบัญชาที่มุ่งแต่จะทำลายเช่นนี้ถ้าหากขาดองค์อุปถัมภ์เสียแล้ววงดนตรีของศิลปากรในปัจจุบันนี้จะต้องได้ถูกยุบเลิกไปนานแล้ว
วงดนตรีฝรั่งหลวงจึงได้รับพระบรมราชูอุปถัมภ์จากรัชชกาลที่
๗ ให้ดำรงค์ไปอย่างเดิม
แต่นักดนตรียังต้องถูกกระทบกระเทือนทางด้านการครองชีพอยู่โดยไม่มีที่พักอาศัยเพราะสโมสรเสือป่าถูกรื้อพร้อมกับห้องพักอาศัยของนักดนตรี,
อาหาร, เครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเคยได้รับพระราชทานในสมัยรัชกาลที่ ๖ ถูกตัดลงจนหมดสิ้น
พ.ศ.
๒๔๗๐ เงินเดือนที่เคยได้รับพระราชทานเพียงเล็กน้อยก็ถูกจำกัดให้มีระดับคงที่
นักดนตรีได้รับความลำบากในเรื่องเงินที่ต้องใช้จ่ายเป็นค่าเช่าที่พัก, ค่าอาหาร,
ค่าเครื่องนุ่งห่มจนได้รับความยาแค้นลำเค็ญ
เพราะหมดหนทางที่จะปลีกตัวไปสู่แหล่งอื่นๆ
แต่ถึงกระนั้นก็ดีน้ำใจที่รักวิชาศิลปก็ยังฝังแน่นอยู่เช่นเดิม
ข้าพเจ้าได้ควบคุมให้เขาปฏิบัติงานและฝึกฝนฝีมือต่อไปอย่างขมักเขม้นและ ๓
ปีให้หลัง วงดนตรีนี้ก็สามารถบรรเลงเพลงขนาดสูงๆ เช่น Symphonic Suite,
Symphonic Poem ได้ดี
สมรรถภาพของนักดนตรีในวงทำให้สบพระราชหฤทัยเป็นอันมาก
บรรดานักดนตรีได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นบ้างเพื่อสนองความดีของเขาตามสมควร
ส่วนข้าพเจ้าก็ได้รับ
พ.ศ.
๒๔๗๑ พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลาจากพระองค์เป็นบำเหน็จความชอบ
จากนั้นแล้งก็ได้พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปิดการแสดง Symphoy Concert สำหรับประชาชนขึ้น
ณ
โรงโขนหลวงสวนมิกวันและต่อมาที่ศาลาสหทัย
เงินที่เก็บได้จาการแสดงนั้นก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานให้แก่องค์การสาธารณะกุศลโดยไม่หักค่าใช้จ่ายเลย คือ องค์การสภากาชาดไทย,
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลจีน
พ.ศ.
๒๔๗๒ โรงพยาบาลศรราช, โรงพยาบาล Mc.Cormick เชียงใหม่ เป็นต้น
ผลของการปฏิบัติการบรรเลงดนตรีปรากฎคำชมเชยจากชาวต่างประเทศมากมายในหน้าหนังสือพิมพ์
Bangkok Times, Siam Observer และ Bangkok Daily Mail ดังจะได้คัดมาเสนอเป็นบางรายดังต่อไปนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น