วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

บันทึกความทรงจำพระเจนดุริยางค์(ปิติ วาทยะกร) ในรัชสมัยของสมเด็จพระปกเกล้าฯ


ในรัชสมัยของสมเด็จพระปกเกล้าฯ
พ.ศ. ๒๔๖๘       ต้นรัชสมัยของสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้บังเกิดความเศร้าสลดใจแกบรรดา
พศกนิกรไทยทั้งมวลและโดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่บรรดาข้าราชการในพระราชสำนักของพระองค์ ด้วยการสววณคตของสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖
            สืบเนื่องจากการสววณคตนั้นแล้ว ประเทศไทยก้อตกอยู่ในรัชสมัยของพระปกเกล้าฯ ในระหว่างเวลานั้น วงดนตรีสากลซึ่งเดิมเรียกว่าวงดนตรีฝรั่งหลวงต้องชงักงานการบรรเลงไปชั่วคราวแต่ต่อมาภายหลังก็ได้ทีการบรรเลงเป็นปกติอีก โดยสมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงมีพระกรุณาธิคุณเป็นองค์อุปภัมภ์
            กิจการของวงดนตรีในตอนต้นๆ ของรัชสมัยนี้ได้บังเกิดการระส่ำระส่ายขึ้น สืบเนื่องมาจากสาเหตุที่มีการเปลี่ยนแปลงในวงราชการของพระราชสำนัก การเปลี่ยนแปลงได้มากระทบกระเทือนไปถึงหน่วยราชการทั่วๆไปรวมทั้งวงดนตรีนี้ด้วยอนาคตของวงดนตรีฝรั่งหลวงนี้ได้นำข่าวต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นข่าวอกุศลทั้งสิ้น โดยกล่าวกันว่าจะต้องถูกยุบเลิกล้มไป และข่าวต่อมาว่าจะอยู่ได้แต่ต้องลดจำนวนนักดนตรีลงเป็นวงดนตรีย่อยๆ ข่าวอกุศลต่างๆ เหล่านี้ทำให้ข้าพเจ้าวิตกและกังวลใจเป็นอันมาก ทั้งรู้สึกเศร้าสลดใจเมื่อรำถึงคำขวัญของบิดาข้าพเจ้าที่ได้กล่าวไว้ในระหว่างที่ท่านป่วยหนักนั้น ใกล้จะเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว ข้าพเจ้าจึงคอยสดับตรับฟังเหตุการณ์คลี่คลายอย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใยยิ่ง
            ครั้นต่อมาการเปลี่ยนแปลงในวงราชการพระราชสำนักได้ปรากฏขึ้นมาจริงดังคาดหมายไว้ ยังส่งผลให้กระทบกระเทือนมาสู่กรมมหรศพเป็นขั้นแรก
กรมมหรศพนี้ต้องถูกยุบเลิกล้มไปพร้อมกับกรมเสือป่าพรานหลวงและม้าหลวงกรมที่เหลืออยู่ถูกลดฐานะลงเป็นกองเป็นหน่วยย่อยๆ ไปหมด  ศิลปินในกรมโขนและ
ปี่พาทย์ถูกปลดไปเป็นส่วนมากมีจำนวนเหลือเพียงปฏิบัติราชการได้บ้างเล็กๆ
พ.ศ. ๒๔๖๙       น้อยๆ เท่านั้น สำหรับวงดนตรีฝรั่งหลวงถูกย้ายจากสโมสรเสือป่าไปอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในกรมอัศวราช (ราชตฤณมัยเดี๋ยวนี้) เพื่อรอคอยชะตากรรมของวง
                                    ต่อมาวันหนึ่งข้าพเจ้าถูกเชิญตัวไปพบกับท่านผู้บัญชาการพระราชสำนักเพื่อปรึกษากิจการของวงดนตรีฝรั่งหลวงนี้ ความประสงค์ของท่านผู้บัญชาการนั้นไม่แต่จะลดจำนานนักดนตรีให้น้อยลงกว่าเดิมอย่างเดียวเท่านั้น ซ้ำยังต้องการให้รักดนตรีเหล่านี้สามารถปฏิบัติหน้าที่อื่นๆไปได้ด้วย คือ  ต้องเป็นนักดนตรี, บรรเลงในวงดนตรีฝรั่งและวงดนตรีปี่พาทย์, ต้องเต้นโขน, ต้องรับการฝึกหัดเดินโต๊ะ เพื่อทำหน้าที่นี้ต่อเมื่อมีราชการในการเลี้ยงใหญ่ ท่านผู้บัญชาการนี้ต้องการให้ศิลปินคนหนึ่งๆ ปฏิบัติงานได้หลายๆอย่างเช่นนี้โดยมิได้คำนึงถึงผลของงานที่จะต้องเสียไปเพราะประสงค์แต่ให้ทุ่นงบประมาณเท่านั้น ข้าพเจ้าถูกรับหน้าที่พิจารณาโครงการเปลี่ยนแปลงนี้และให้เสนอความเห็นขึ้นไปในเร็ววัน
                                    วงดนตรีฝรั่งหลวงเคยดำเนินราชการไปด้วยดีตลอดมาแต่บัดนี้กำลังจะประสพกับความวิบัติ คุณความดีของศิลปินที่เขาได้ปฏิบัติราชการมาด้วยความสุจริตและพากเพียรกำลังจะได้รับผลร้ายตอบแทน ข้าพเจ้านำข่าวเปลี่ยนแปลงปรึกษาหารือในหมู่ศิลปินของข้าพเจ้าด้วยกันทุกคนต่างลงความเห็นว่า การดำเนินงานในแบบใหม่นี้คือความหายนะของพวกเขา ไม่มีใครจะสามารถปฏิบัติงานหลายอย่างให้ได้ผลดีในเวลาเดียวกันได้ ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นหัวหน้าวงได้พิจารณาโดยยรอบคอบแล้วเห็นว่าไม่มีทางใดเหลืออยู่นอกจากจะได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาโดยผ่านทางราชองครักษ์ซึ่งเมื่อทรงได้รับทราบแล้วก็ตกพระทัยและกล่าวว่า นี่อะไรกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีจุดจำนงจะบำรุงดนตรีวงนี้ให้เจริญยิ่งขึ้นและเรื่องเปลี่ยนแปลงของวงดนตรีเช่นนี้ก็ไม่เคยทราบถึงพระกรรณเลย ในที่สุดคำกราบบังคมทูลของข้าพเจ้าก็ถูกนำขึ้นถวาย ผลคั่นสุดท้าย คือ ข้าพเจ้าได้รับพระราชเสาวณีย์ให้ปฏิบัติไปเช่นเดิมทุกประการเพื่อความเจริญก้าวหน้าของศิลปินด้านนี้ เมื่อเหตุร้ายกลายเป็นดีจึงไม่ต้องสงสัยว่าข้าพเจ้าจะมิได้รับความเครียดแค้นจากท่านผู้บังคับบัญชาของข้าพเจ้า เพราะท่านเคยกล่าวแก่ข้าพเจ้าด้วยความคิดแคบๆ ว่า นี่มันเมืองไทย จะเอาดนตรีฝรั่งมาไว้ทำไมกัน จึงขอให้ท่านผู้อ่านได้ใคร่ครวญดูเถิดว่า การดิ้นรนของข้าพเจ้านำมาซึ่งความเจริญก้าวหน้าให้แก่วงดนตรีวงนี้ในเมื่อต้องมาถูกต่อต้านกับอุดมคติของผู้บังคับบัญชาที่มุ่งแต่จะทำลายเช่นนี้ถ้าหากขาดองค์อุปถัมภ์เสียแล้ววงดนตรีของศิลปากรในปัจจุบันนี้จะต้องได้ถูกยุบเลิกไปนานแล้ว
                                    วงดนตรีฝรั่งหลวงจึงได้รับพระบรมราชูอุปถัมภ์จากรัชชกาลที่ ๗ ให้ดำรงค์ไปอย่างเดิม แต่นักดนตรียังต้องถูกกระทบกระเทือนทางด้านการครองชีพอยู่โดยไม่มีที่พักอาศัยเพราะสโมสรเสือป่าถูกรื้อพร้อมกับห้องพักอาศัยของนักดนตรี, อาหาร, เครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเคยได้รับพระราชทานในสมัยรัชกาลที่ ๖ ถูกตัดลงจนหมดสิ้น
พ.ศ. ๒๔๗๐       เงินเดือนที่เคยได้รับพระราชทานเพียงเล็กน้อยก็ถูกจำกัดให้มีระดับคงที่ นักดนตรีได้รับความลำบากในเรื่องเงินที่ต้องใช้จ่ายเป็นค่าเช่าที่พัก, ค่าอาหาร, ค่าเครื่องนุ่งห่มจนได้รับความยาแค้นลำเค็ญ เพราะหมดหนทางที่จะปลีกตัวไปสู่แหล่งอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นก็ดีน้ำใจที่รักวิชาศิลปก็ยังฝังแน่นอยู่เช่นเดิม ข้าพเจ้าได้ควบคุมให้เขาปฏิบัติงานและฝึกฝนฝีมือต่อไปอย่างขมักเขม้นและ ๓ ปีให้หลัง วงดนตรีนี้ก็สามารถบรรเลงเพลงขนาดสูงๆ เช่น Symphonic Suite, Symphonic Poem ได้ดี สมรรถภาพของนักดนตรีในวงทำให้สบพระราชหฤทัยเป็นอันมาก บรรดานักดนตรีได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นบ้างเพื่อสนองความดีของเขาตามสมควร ส่วนข้าพเจ้าก็ได้รับ
พ.ศ. ๒๔๗๑       พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลาจากพระองค์เป็นบำเหน็จความชอบ จากนั้นแล้งก็ได้พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปิดการแสดง Symphoy Concert สำหรับประชาชนขึ้น
ณ โรงโขนหลวงสวนมิกวันและต่อมาที่ศาลาสหทัย เงินที่เก็บได้จาการแสดงนั้นก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้แก่องค์การสาธารณะกุศลโดยไม่หักค่าใช้จ่ายเลย คือ องค์การสภากาชาดไทย, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลจีน
พ.ศ. ๒๔๗๒      โรงพยาบาลศรราช, โรงพยาบาล Mc.Cormick เชียงใหม่ เป็นต้น ผลของการปฏิบัติการบรรเลงดนตรีปรากฎคำชมเชยจากชาวต่างประเทศมากมายในหน้าหนังสือพิมพ์ Bangkok Times, Siam Observer และ Bangkok Daily Mail ดังจะได้คัดมาเสนอเป็นบางรายดังต่อไปนี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น