วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วิชาวิถีพลโลก โหมดเสียงดนตรี


โหมด (MODE)
         โหมดหลัก
            การแยกแยะโหมดชนิดต่างๆขึ้นอยู่กับฟินาลิสหรือโน้ตจบทำนอง เทียบกับโน้โทนิก (tonic) ส่วนช่วงเสียงก็คือระยะจากโน้ตตัวหนึ่งไล่ขึ้นไปตามลำดับอีก 7 ตัวเป็นระยะ 1 ช่วงคู่แปด ฟินาลิสที่มีใช้มากที่สุดมี 4 ตัว คือ D หรือโปรตุส (Protus) , E หรือเดยูเรตุส (Deuterus) , F หรือไตรตุส (Tritus) และ G หรือเตตราดุส
            ถ้าเทียบกับบันไดเสียง C เมเจอร์ได้ โหมดที่มีฟินาลิสเป็น D คือ โหมดโดเรียน(Dorian mode) โหวดที่มีฟินาลิสเป็น E คือ โหมดฟริเจียน (Phrygian mode) โหมดที่มีฟินาลิสเป็น F คือ โหมดลิเดียน  (Lydian mode) และโหมดที่มีฟินาลิสเป็น G คือโหมดมิกโซลิเดียน (Mixolydian mode) ซึ่งทั้งหมดนี้คือ โหมดหลัก ( Aythentic mode) ซึ่งทั้งหมดนี้คือ โหมดหลัก ( Authentic mode) มีที่ใช้เป็นที่แพร่หลาย
            ต่อมาได้มีการเพิ่มเติมชนิดของโหมดหลักขึ้นอีก 3 โหมด พื่อให้มีจำนวนโหมดหลักที่มีฟินาลิสครบ 7 ตัว โหมดทั้งสามได้แก่ โหมดไอโอเนียน (Ionian mode) ซึ่งมีฟินาลิสเป็น C  โหมดเอโอเลียน (Aeolian mode) ซึ่งมีฟินาลิสเป็น A และโหมดโลเครียน (Locrian mode) ซึ่งมีฟินาลิส เป็น B
            โน้ตสำคัญของแต่ละโหลดนอกจากจะมีฟินาลิสเป็นโน้ตสำคัญที่สุดแล้ว ยังมีโน้ตพักประโยคเพลงที่เรียกว่า โน้ตโดมินันท์ (Dominant) เป็นโน้ตที่มีความสำคัญเป็นรอง โดยจะเป็นโน้ตตัวที่ 5 นับจากตัวฟินาลิสของแต่ละโหมด ยกเว้นในกรณีโน้ตตัวที่ 5 เป็นโน้ต B ก็จะปรับเป็นโน้ตตัวถัดไปคือ โน้ต C เพราะโน้ต B ถือว่าเป็นโน้ตที่ไม่มีความมั่นคง
            โหมดหลักมีทั้งสิ้น 7 โหมด ได้แก่
1.โหมดไอโอเนียน คือโหมดที่มีฟินาลิสเป็น C มีช่วงเสียงระหว่าง C-C  โหมดไอโอเนียนในบันไดเสีย เมเจอร์ก็คือ C D E F G A B C
         2.โหมดโดเรียน คือโหมดที่มีฟินาลิสเป็น D มีช่วงเสียงระหว่า D-D โหมดโดเรียนในบันไดเสียง C เมเจอร์คือ D E F G A B C D
         3.โหมดฟริเจียน คือโหมดที่มีฟินาลิสเป็น E มีช่วงเสียงระหว่าง E-E โหมดฟริเจียนในบันไดเสียง C เมเจอร์ก็คือ E F G A B C D E ในโหมดนี้ต้องปรับจากโน้ต B ซึ่งเป็นโน้ตตัวที่ 5 ให้เป็นโน้ต C เนื่องจากเหตุผลที่กล่าวแล้วดังข้างต้น และด้วนการปรับนี้เองทำให้โน้ตโดมินันท์ของโหมดฟริเจียนนี้ กลายเป็นโน้ตตัวเดียวกับโน้ตโดมินันท์ของโหมดลิเดียน
4.โหมดลิเดียน คือโหมดที่มีฟินาลิสเป็น F 1,u=j;’glup’its;jk’ โ-โ โหมดลิเดียนในบังไดเสียง C เมเจอร์คือ F G A B C D E F
5.โหมดมิกโซลิเดียน คือโหมดที่มีฟินาลิสเป็น G มีช่วงเสียงระหว่าง G-G โหมดมิกโซลิเดียนในบันไดเสียง C เมเจอร์คิ G A B C D E F G
         6.โหมดเอโอเลียน คิอโหมดที่มีฟินาลิสเป็น A มีช่วงเสียงระหว่าง A-A โหมดเอโอเลียนในบันไดเสียง C เมเจอร์คือ A B C D E F G A ซึ่งโหมดนี้เหมือนกับบันไดเสียงไมเนอร์แบบเนเชอรัล
  7.โหมดโลเครียน คือโหมดที่มีฟินาลิสเป็น B มีช่วงเสียงระหว่าง B-B โหมดโลเครียนในบันไดเสียง C เมเจอร์คือ B C D E F G A B โหมดนี้มีปรากฏในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติไม่เป็นที่นิยมเลย เนื่องจากฟินาลิสซึ่งถือว่าเป็นโน้ตหลักที่มั่งคงกลับเป็นโน้ต B ซึ่งเป็นโน้ตอ่อนแอ นอกจากนี้ยังมีปัญหาทางเทคนิคอีกประการหนึ่ง ระยะห่างระหว่างฟินาลิส B และโน้ตดินันท์ F ห่างกันเป็นคู่ 5 ดิมินิท์หรือขึ้นคู่สามเสียงซึ่งเป็นคู่ที่มีเสียงกระด้าง ในขณะที่ระยะห่างระหว่างโน้ตทั้งสองดังกล่างในโหมดอื่นๆเป็นคู่ 5 เพอร์เฟคทั้งสิ้น
       
โหมดรอง
            โหมดหลุ่มนี่เป้นโหมดที่เป็นเสียงช่วงต่ำ (Plagal mode) โหมดหลักและโหมดรองจะมีคู่กันเสมอโดยโหมดรองจะมีคำว่าไฮโป(Hypo) นำหน้าชื่อ ไฮโป แปลว่า ต่ำกว่า หรืออยู่ใต้และโหมดรองจะอยู่ต่ำกว่าโหมดหลักระยะคู่ 4 ฟินาลิสยังเป็นตัวเดียวกับโหมดหลัก ส่วนโน้ตโดมินันท์ของโหมดรองจะอยู่ต่ำกว่าโน้ตโดมินันท์ของโหมดหลักเป้นคู่ 3 เว้นแค่กรณีเมื่อนับคุ่ 3 แล้วตกบนโน้ต B ซึ่งจะต้องถูกปรับขึ้นป็นโน้ต C
         โหมดรองมีทั้งหมด 7 โหมด ดังนี้
            1.โหมดไฮโปไอโอเนียน(hypoionian mode)คือโหมดที่มีฟินาลิสเป็น C มีช่วงเสียงระหว่าง G-G ประกอบด้วยโน้ต G A B C D E F G ถ้าดผิวเผินจะพบว่าโหมดไฮโปไอโอเนียนเหมือนฌหมดมิกโวเดียนทุกประการ แต่อันที่จริงโหมดทั้งสองเหมือนกันที่ช่วงเสียงแต่กตางกันที่ฟินาลิสและโดมินันท์ ฟินาลิสของโหมดมิกโซลิเดียนคือ G แต่ฟินาลิสของโหมดไฮโปไอโอเนียนคือ C ส่วนโดมินันท์ของโหมดมิกโซลิเดียนคือ D แต่ของไฮโปไออเนียนคือE วิธีหาโน้ตของโหมดไฮโปไอโอเนียน คือให้อิงโน้ตโดมินันท์ของโหมดหลักที่คู่กันได้แก่โหมดไอโอเนียนแล้วนับลงาคู่ 3 โน้ตโดมินันท์ของโหมดๆอโอเนียนคือ G เมื่อนับลงมา 3 คู่จะด้แก่ E ฉะนั้นโน้ตโดมินันท์ของโหมดไฮโปไอโอเนียนจึงเป็นโน้ต  E
        2. โหมดไฮโปโดเรียน คือโหมดที่มีฟินาลิสเป้น D มีช่วงเสียงระกหว่าง A-A ประกอบด้วยโน้ต ABCDEFGA ส่วนโน้ตโดมินันท์คือ F อยู่ต่ำกว่าเอ
3. โหมดไฮโปฟริเจียน คือโหมดที่มีฟินาลิสเป็น E มีช่วงเสียงนะหว่าง B-B ประกอบด้วยโน้จ B C D E F G A B ในที่นี้โน้ตโดมินันท์ของโหมดหลักที่คู่กันคือ C (ถูกปรับขึ้นครึ่งเสียงจากบี) ฉะนั้นโน้ตโดมินันท์ ของโหมดไฮโปฟริเจียนจึงเป็นโน้ต A เพราะอยู่ต่ำกว่า C เป็นคู่ 3
 4 โหมดไฮโปลิเดียน คือโหมดที่มีฟินาลิสเป็น F โน้ตดินันท์คือ A มีช่วงเสียงระหว่าง C-C ประกอบด้วยโน้ต C D E F G A B C เนื่องจากในโหมดฟริเจียนและโหมดลิเดียนมีโน้ตโดมินันทฺเป็นตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น