วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

มาร์ติน เทย์เลอร์ กีตาร์แจ๊ส

มาร์ติน เทย์เลอร์ นักกีตาร์ผู้มากความสามารถ ได้ก้าวเข้ามาสู่ความโดดเด่น ในช่วงปลาย 70 จากการร่วมงานกับสเตฟาน กราพเพลลี นักไวโอลินระดับตำนาน ปัจจุบันมาร์ติน เทย์เลอร์ ได้ตระเวณเปิดการแสดงสดชนิดที่กระชากหัวใจ ของผู้ชมในประเทศต่าง ๆ มาแล้วทั่วโลก มาร์ตินเริ่มหัดเล่นดนตรีเมื่ออายุ 4 ขวบ จากการที่คุณพ่อของเขา บัค เทย์เลอร์ นักดนตรีเบส ได้ให้กีตาร์ตัวเล็กๆ เป็นของขวัญแก่มาร์ติน เขาจึงหัดเล่นกีตาร์ด้วยตนเองนับตั้งแต่นั้น โดยฟังแผ่นเสียงที่ คุณพ่อของเขาเป็นผู้เล่น และ พยายามเล่นตาม เจ็ดปีต่อมา เมื่อมีอายุได้ 11 ปี มาร์ตินเล่นกีตาร์ร่วมกับ วงดนตรีท้องถิ่น และได้รับการยกย่องชื่นชมจากนักดนตรีมืออาชีพ ซึ่งตื่นตะลึง ที่ได้ยินฝีมือของมาร์ติน จนกระทั่งเรียกเด็กน้อยว่า พ่อมดแห่งกีตาร์ถึงแม้ว่าจะได้รับแรงบันดาลใจจาก แดงโก ไรน์ฮาร์ด
นักกีตาร์ยิบซี แต่ผู้ที่ผลักดันให้มาร์ติน เทเลอร์ มีสไตล์การเล่นของตนเอง และพัฒนาไปสู่ความเป็นนักกีตาร์โซโล คือนักเปียโน อาร์ต ทาทัม และบิล เอแวนส์
ปี ค.ศ. 1978 มาร์ตินมีอัลบั้มแรกของตนเอง ชื่อ Taylor Made ในปีต่อมา สเตฟาน กราพเพลลี ได้ขอให้มาร์ตินมาร่วมเล่นในการแสดง คอนเสิร์ตที่ประเทศฝรั่งเศสหลังจากคอนเสิรต์ที่ประทศฝรั่งเศสไม่นาน มาร์ตินได้ร่วมเล่นกับกราพเพลลีในทัวร์การแสดงแถบชายฝั่งทะเล ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงที่ คาร์เนกี้ ฮออล์ นิวยอรค์ และที่ ฮอลลีวู้ด โบลว์ การทัวร์นั้นก็คือการเริ่มต้นการทำงานร่วมกัน ของนักดนตรีทั้งสอง ในอีกสิบเอ็ดปีต่อมา เขาทั้งสองได้ร่วมกัน ทัวร์การแสดงในต่างประเทศอีกหลายครั้ง มีอัลบั้มออกตามมาอีก กว่า 20 อัลบั้ม รวมถึงการบันทึกเสียงร่วมกับเนลสัน ริดเดิล, มิเชล ลีแกรนด์, เยฮูดี เมนูฮิน, เพ็กกี ลี และร่วม ทำซาวด์แทรคภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง รวมถึงหนังของ หลุยมอลเล Milou en Mai และ Dirty Rotten Scoundrels
ที่นำแสดงโดย สตีฟ มาร์ติน และเซอร์ไมเคิล เคนพร้อมกับการทำงาน ร่วมกับกราพเพลลี มาร์ตินก็ได้ทำงานของตนเองในฐานะศิลปินเดี่ยว และได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในสหรัฐฯ กับผลงานที่อัดเสียง ในลอส เองเจลิส อัลบั้มชื่อ Sarabanda
ปี ค.ศ. 1993 มาร์ติน เทย์เลอร์ ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวกับบริษัทลินน์ เรคคอร์ต ชื่อ Artistry ซึ่งได้รับความนิยมขึ้นอันดับหนื่ง ใน HMV Charts นานถึง 6 สัปดาห์ ทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็น นักกีตาร์อคูสติค ยอดนิยมที่สุด และยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ ปีต่อมา เขาได้ตั้งวงชื่อ Spirit of Django อัลบั้มแผ่นแรก รวมถึงเวอร์ชั่น Robert Palmer’s Johny and Mary ซึ่งใช้ในโฆษณาทีวี
ที่มีชื่อเสียงร่วมกับ Nicole-Papa สำหรับ Renalul Clio

ปี 1999 มาร์ติน เทย์เลอร์ เซ็นสัญญากกับบริษัทโซนี มิวสิค ได้ทำอัลบั้มสองชุด ที่ได้รับการวิจารณ์ อย่างสูง ได้แก่ Kiss And Tell และ Nitelife ซึ่งอัลบั้มทั้งสองนี้ได้แสดงให้เห็นถึง ความสามารถหลากหลายของมาร์ติน ทั้งในฐานะนักกีตาร์ และนักแด่งเพลง
นอกจากนี้ มาร์ติน ยังได้ร่วมงานกับนักดนตรีต่างแนวกันหลายคน เช่น เชท แอทกินส์, จอร์ช แฮริสัน อีริค แคลบตัน, คริส เรีย, บิล ไวแมน, ดิออน วอร์วิค, ลิซา มินเนลี, ซาซา ดิสเตล และ ไบรอัน เทอร์เฟล มาร์ตินเป็นศิลปินที่ได้รับความนิยมมากในประเทศญี่ปุ่น เขาได้ทำงานร่วมกับโนโบยา ซูกาวา นักแซกโซโฟน คลาสสิค แต่งเพลงให้กับละครทีวีที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ NHK
เรื่อง Sakura ในแต่ละวันมีผู้ชมละครเรื่องนี้กว่า 26 ล้านคน

ปี ค.ศ. 1998 มาร์ตินได้จัดงาน The Kirkmichael International Guitar Festival ที่เมืองบ้านเกิด ของเขาใน Scotland ซึ่งได้กลายเป็นงานเกี่ยวกับกีตาร์ที่ใหญ่ที่สุด มีเกียรติภูมิสูงสุด
งานหนึ่งของโลก นอกจากนี้ มาร์ตินยังได้ทำหลักสูตรสำหรับโรงเรียน ซึ่งส่งเสริมการสอนกีตาร์ในโรงเรียนประถม มาร์ตินได้ใช้เงินที่หามาได้ จากงานของเขาเพื่อเป็นทุนในการซื้อกีตาร์และค่าลงทะเบียน สำหรับเด็กนักเรียนหลายร้อยคนทั่วทั้งตะวันตกเฉียงใต้ของสก๊อตแลนด์

มาร์ตินได้รับรางวัลและเกียรติยศชื่อเสียงอย่างมากมายปีแล้วปีเล่า รวมถึง The Freedom of the City of London, the gold Badge of Merit จาก The British Academy of Composers and songwriters และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัย Paisley ในสก๊อตแลนด์

ปี ค.ศ. 2002 มาร์ตินได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ Member of the Order of the British Empire (MBE) ในฐานะที่ได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศอังกฤษทางด้านดนตรี
เนื่องในวโรกาสวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธ และได้รับรางวัลเป็นการส่วนพระองค์จากสมเด็จ พระราชินี ฯ ที่พระราชวังบัคกิงแฮม

อัตโนประวัติสำหรับ Sanctuary ตีพิมพ์ใน Kiss and Tell เผยแพร่ไปทั่วโลก คำนิยาม นักกีตาร์อคูสติคแห่งยุคสมัย - นิตยสาร Acoustic Guitar นักกีตาร์ผู้ยิ่งใหญ่ - สเตฟาน กราพเพลลี
นักกีตาร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของยุโรป - Jazz Time New York เป็นแรงบันดาลใจและน่าตื่นใจอย่างที่สุด - แพท แมธธินี   เทอร์รี เกรกอรี - เบส
เทอร์รี สนุกกับงานดนตรีหลายรูปแบบ นับตั้งแต่เป็นนักดนตรีประจำวง และเป็นนักดนตรีที่เล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่าง (Instrumentalist) และเป็นนักวิชาการทางด้านดนตรี อีกทั้งมีผลงานร่วมกับ Helen Shapiro, Harold Melvin & the Blue Notes, Jimmy Raffin, Eartha Kitt, Iris Williams, The Drifters, Five Stars, The Supreme & Billy Paul นอกจากนี้ ยังได้ร่วมงานกับนักกีตาร์ร็อค Steve Hackett แห่งวง Geneis ได้บันทึกเสียงและตระเวณแสดงทัวร์ไปทั่วประเทศอังกฤษ ยุโรป สหรัฐอเมริกา แคนาดา และ อเมริกาใต้

เทอร์รี ได้ร่วมบันทึกเสียงกับมาร์ติน เทย์เลอร์ ในอัลบั้มชุด Spirit of Django ถือได้ว่าเป็นผลงานยอดเยี่ยมในชีวิต เพราะอัลบั้มชุดนี้ ทำให้คณะนักดนตรีกลุ่มนี้ได้รับการโหวตให้เป็นนักดนตรีแจ๊สยอดเยี่ยม แห่งปี 1999 จาก BT British Jazz Awards ปัจจุบัน เทอร์รี เป็นหนึ่งในวงดนตรี Trio ของมาร์ติน เทย์เลอร์ และแสดงในรายการ The Hit London West End Show, Mamma Mia! ตลอดจน รายการอื่นๆ ของ West End Production รวมถึง Blood Brothers, Jesus Christ Superstar, Bugsy Marlone และ Sweet Charity

ในฐานะที่เป็นนักวิชาการที่มีความกระตือรือล้น เทอร์รี่เป็นครูสอนเบส ใน London College of Music, Thames Valley University และ The Colchester Institute นอกจากนี้เขายังเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง ของสถาบัน Basstech ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Power House Music School นอกจาก เทอร์รี่ จะเป็นครูสอนเล่นดนตรีแล้ว เขายังได้ร่างหลักสูตร สำหรับหลายวิชาที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน เช่น วัฒนธรรมดนตรีป๊อปของอังกฤษ

งานเขียนที่เป็นเครดิตของเทอร์รี่ รวมถึง แทรคทั้งสี่ สำหรับ ซีดีที่ออกวางตลาดล่าสุดได้แก่ Noise from the black Stuff (four Corners)

เจมส์ เทย์เลอร์ - กลอง เจมส์ เทย์เลอร์ เป็นหนึ่งในมือกลองและเพอร์คัสชันที่ ประสบความสำเร็จที่สุดในประเทศอังกฤษ งานดนตรีแจ๊สของเขาได้แก่งานบันทึกเสียงร่วมกับนักร้องเพลงแจ๊ส
ระดับรางวัล แคลร์ มาร์ตินและนักไวโอลิน ระดับตำนาน อย่าง สเตฟาน กราพเพลลี

ปี 1995 เขาได้ร่วมงานกับคุณพ่อของเขา ซึ่งก็คือ มาร์ติน เทย์เลอร์ ในวง Martin Taylor’s Group สำหรับอัลบั้ม Spirit of Django ซึ่งต่อมาวงดนตรีก็ได้รับรางวัล Jazz Group of the Year
จาก British Jazz Awards ในปี 1996 ในขณะเดียวกันที่อัลบั้ม ได้ขึ้นสู่อันดับ 1 ของ US Jazz Charts
นอกเหนือจากงานดนตรีแจ๊ส เจมส์ เทย์เลอร์ ได้ร่วมงานกับ The Edinburgh University Chamber Orchestra, The Scottish Fiddle Orchestra และ John Lodge นักกีตาร์เบสชื่อดังแห่งวง The Moody Blues ซึ่งได้ขายอัลบั้ม ได้มากกว่า 55 ล้านแผ่นทั่วโลก เจมส์เคยไปเปิดการแสดงทัวร์ ที่สแกนดิเนเวีย, อิตาลี, ไอร์แลนด์, สเปน, ปอร์ตุเกส และศรีลังกา เช่นเดียวกับการเปิดการแสดงในงานดนตรีแจ๊ส ในเอดินเบอระ บรีคอน, ลอนดอน และกลาสโกลว์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น