วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ปัจจัยพฤติกรรมในการเลือกเรียนรายวิชาเพิ่มเติมเลือก อารยะทางสายศิลป์มุ่งสู่รายวิชาเอกดุริยางคศิลป์ มัธยมศึกษาตอนปลาย

 

ปัจจัยพฤติกรรมในการเลือกเรียนรายวิชาเพิ่มเติมเลือก อารยะทางสายศิลป์มุ่งสู่                    รายวิชาเอกดุริยางคศิลป์ มัธยมศึกษาตอนปลาย

 ยงยุทธ  เอี่ยมสอาด

กลุ่มสาระดนตรีสากล  โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร(ฝ่ายมัธยม)

อารยะทางสายปฏิบัติทางการเรียน

          รายวิชาเพิ่มเติมเลือก   นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร(ฝ่ายมัธยม) มี 2กลุ่ม การเรียน กลุ่ม1 เป็นการเรียนแนวทางการปฏิบัติ กลุ่ม 2 เป็นการเรียนแนวทางทฤษฎีวิชาพื้นฐาน รายวิชาการเรียน กลุ่ม 1 ประกอบด้วยรายวิชา ดังนี้ 1.) การตัดเย็บเครื่องใช้ภายในบ้าน 2.)งานช่างไม้เครื่องเรือน 3.) งานช่าง 1 4.)เปิดโลกธุรกิจ 5.)ทักษะพื้นฐานการงานอาชีพ 6.)พื้นฐานว่ายน้ำ 7.)ทักษะดนตรีเครื่องสายไทย 8.)ทักษะดนตรีไทยปี่พาทย์ 9.)กีตาร์คลาสสิก/ดนตรีพื้นเมือง 10.)ขับร้องประสานเสียง 11.)ทักษะดนตรีสากลเครื่องสายสากล 12.)ทักษะดนตรีสากลเครื่องเป่า 13.)นาฏศิลป์ไทยปฏิบัติละคร 14.)นาฏศิลป์ไทบปฏิบัติโขน 15.)งานกราฟฟิกเบื้องต้น 16.)กรุงเทพมืองน่าอยู่

          ในการเลือกเรียนรายวิชาเพิ่มเติมเลือก ทางโรงเรียนได้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ทดลองเรียน 16 รายวิชา ภายใน 10 สัปดาห์ วิชาละ 50 นาที(1คาบเรียน)  และสุดท้ายนักเรียนตัดสินใจ เพื่อเลือกเรียนรายวิชาต่างๆ  เพื่อจะเรียนต่อ ใน 1 ปีการศึกษา หรือสามารถเลือกต่อเนื่องได้ต่อ ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 , 3



                               ภาพที่ 1 เพิ่มเติมเลือก กลุ่ม 1  กลุ่มไวโอลินขอรายงานตัว

 

          ปัจจัยที่ผู้เขียนบทความสนใจ ในการทำการวิจัยในชั้นเรียนจากครั้งเรียน ครั้งสุดท้ายที่นักเรียนได้ทำการเลือกเรียนรายวิชาเพิ่มเติมเลือก จบขบวนการและขั้นตอน ประกาศรายชื่อนักเรียนเพิ่มเติมเลือก กลุ่ม 1 เป็นที่เรียบร้อย โดยใช้นักเรียน เลขที่ 25- 29 ห้อง 1 – 12 รวมทั้งหมดจำนวน 60 คน โดยการสัมภาษณ์กึ่งทางการ ในการตอบคำถาม 2 ข้อ ดังนี้

1.       รายวิชาเพิ่มเติมเลือกที่นักเรียนตัดสินใจเลือกเรียน ได้แก่

2.       ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมใดเป็นเหตุผลหลักในการเลือกเรียนรายวิชาเพิ่มเติมเลือก

2.1   เหตุผลการเลือกจากการหมุนการเรียน 16 รายวิชา เพื่อทดลองเรียน

2.2   เหตุผลจากความตั้งใจเดิม หรือเป้าหมายความชอบอยู่ก่อนแล้ว

2.3   เหตุผลจากเลือกเรียนตามเพื่อนสนิท ที่เลือกเรียนรายวิชานั้นๆ

 

ตารางแบบสอบถามปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมใดเป็นเหตุผลหลักในการเลือกเรียนรายวิชาเพิ่มเติมเลือก   กลุ่ม 1

นักเรียน

1.

รายวิชาเพิ่มเติมเลือกที่เลือกเรียน

2.1

ทดลองเรียน

2.2

ความตั้งใจเดิม

2.3

เลือกตามเพื่อน

อื่นๆ

หรือ

โควต้า

รายวิชาการเรียน กลุ่ม 1 ประกอบด้วยรายวิชา ดังนี้

 

ห้อง

เลขที่

 

 

 

 

 

1.) การตัดเย็บเครื่องใช้ภายในบ้าน

 

1

25

10.ขับร้อง

 

/

 

 

2.)งานช่างไม้เครื่องเรือน

 

26

9.กีตาร์

 

/

 

 

3.) งานช่าง 1

 

27

ขาดเรียน

 

 

 

 

4.)เปิดโลกธุรกิจ

28

9.กีตาร์

 

/

 

 

5.)ทักษะพื้นฐานการงานอาชีพ

29

4.ธุรกิจ

 

/

 

 

6.)พื้นฐานว่ายน้ำ

2

25

6.ว่ายน้ำ

 

/

 

 

7.)ทักษะดนตรีเครื่องสายไทย

26

ขาดเรียน

 

 

 

 

8.)ทักษะดนตรีไทยปี่พาทย์

27

13.ละคร

 

/

 

 

9.)กีตาร์คลาสสิก/ดนตรีพื้นเมือง

28

ขาดเรียน

 

 

 

 

10.)ขับร้องประสานเสียง

29

8.ปี่พาทย์

 

/

 

 

11.)ทักษะดนตรีสากลเครื่องสายสากล

3

25

13.ละคร

 

/

 

 

12.)ทักษะดนตรีสากลเครื่องเป่า

26

1.ตัดเย็บ

 

/

 

 

13.)นาฏศิลป์ไทยปฏิบัติละคร

27

ขาดเรียน

 

 

 

 

14.)นาฏศิลป์ไทบปฏิบัติโขน

28

ขาดเรียน

 

 

 

 

15.)งานกราฟฟิกเบื้องต้น

29

16.กรุงเทพน่าอยู่

 

/

 

 

16.)กรุงเทพมืองน่าอยู่

4

25

2.ช่างไม้

/

 

 

 

 

26

2.ช่างไม้

 

/

 

 

 

27

9.กีตาร์

 

/

 

 

 

28

ขาดเรียน

 

 

 

 

 

29

13.ละคร

 

 

 

โควต้า

 

5

25

ขาดเรียน

 

 

 

 

 

26

13.ละคร

 

/

 

 

 

27

10.ขับร้อง

 

/

 

 

 

28

2.ช่างไม้

 

/

 

 

 

5

29

15.กราฟฟิก

 

/

 

 

 

6

25

ขาดเรียน

 

 

 

 

 

26

9.กีตาร์

 

/

 

 

 

27

13.ละคร

 

 

 

โควต้า

 

28

ขาดเรียน

 

 

 

 

 

29

ขาดเรียน

 

 

 

 

 

7

25

13.ละคร

 

/

 

 

 

26

13.ละคร

 

/

 

 

 

27

7.เครื่องสายไทย

 

/

 

 

 

28

13.ละคร

 

 

 

โควต้า

 

29

ขาดเรียน

 

 

 

 

 

8

25

13.ละคร

 

/

 

 

 

26

11.เครื่องสายสากล

 

/

 

 

 

27

2.ช่างไม้

 

/

 

 

 

28

2.ช่างไม้

 

/

 

 

 

29

11.เครื่องสายสากล

 

/

 

 

 

9

25

ขาดเรียน

 

 

 

 

 

26

5.งานอาชีพ

 

/

 

 

 

27

11.ไวโอลิน

 

/

 

 

 

28

9.กีตาร์

 

/

 

 

 

29

1.ตัดเย็บ

 

/

 

 

 

10

25

8.ปี่พาทย์

 

/

 

 

 

26

2.งานไม้

 

/

 

 

 

27

ขาดเรียน

 

 

 

 

 

28

6.ว่ายน้ำ

 

/

 

 

 

29

9.กีตาร์

 

/

 

 

 

11

25

15.กราฟฟิก

 

/

 

 

 

26

11.ไวโอลิน

 

/

 

 

 

 

27

5.กพอ.

 

/

 

 

 

28

4.เปิดโลกธุรกิจ

 

/

 

 

 

29

15.กราฟฟิก

 

/

 

 

 

12

25

16.กรุงเทพน่าอยู่

/

 

 

 

 

26

15.กราฟฟิก

 

/

 

 

 

27

ขาดเรียน

 

 

 

 

 

28

16.กรุงเทพน่าอยู่

 

/

 

 

 

29

15.กราฟฟิก

 

/

 

 

 

สรุป

หัวข้อ

2.1

2.2

2.3

โควต้า

 

จำนวนนักเรียน(คน)

ขาดเรียน  14

2

41

-

3

60 คน

ค่าเฉลี่ย

23.34

3.33

68.33

 

5

100

 

สรุปแบบสอบถามปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมใดเป็นเหตุผลหลักในการเลือกเรียนรายวิชาเพิ่มเติมเลือก กลุ่ม 1

1.       รายวิชาเพิ่มเติมเลือกกลุ่ม 1 จำนวน 16 รายวิชา

2.       ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเลือกรายวิชาเหตุผลการเลือกจากการหมุนการเรียน 16 รายวิชา เพื่อทดลองเรียน    จำนวน 3.33 เปอร์เซนต์

3.       ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกรายวิชาเหตุผลจากความตั้งใจเดิม หรือเป้าหมายความชอบอยู่ก่อนแล้ว                       จำนวน 68.33 เปอร์เซนต์

4.       ปัจจัยที่ส่งผลต่อกี่เลือกรายวิชาเหตุผลจากเลือกเรียนตามเพื่อนสนิท ที่เลือกเรียนรายวิชานั้นๆ                           จำนวน 0 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่มีปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือก

5.       นักเรียนความสามารถพิเศษ ทางด้านนาฎศิลป์ละคร โดยบังคับเลือกรายวิชาเพิ่มเติมเลือก                                จำนวน 5 เปอร์เซ็นต์

6.       นักเรียน ขาดเรียน ไม่ได้ตอบข้อคำถาม จำนวน 23.34 เปอร์เซนต์


สรุปตารางการเลือกเรียนรายวิชาเพิ่มเติมเลือก กลุ่ม 1 16 รายวิชา  นักเรียนเลขที่ 25-29 ห้อง 1-12 จำนวน 60 คน


 

เส้นทางการเรียนที่ฉันต้องเลือกเอง  ปัจจัยพฤติกรรมจิตวิทยาการเลือกเพิ่มเติมเลือก กลุ่ม 1

หนึ่งในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ยุคใหม่ในสมัยนี้ที่เกิดขึ้นมา และกำลังถูกใช้อย่างมากมายในการตลาดนั้นคือ การที่เข้าใจว่า มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีเหตุผลและใช้การตัดสินใจด้วยการใช้อารมณ์เป็นส่วนใหญ่นั้นเอง จากการวิจัยของนักวิจัยที่ผ่านมาพบว่ามนุษย์นั้นใช้เหตุผลเพียง 5% ในการตัดสินใจและใช้อารมณ์ตัดสินใจกว่า 95% ในเรื่องต่าง ๆ เราจึงเห็นการซื้อหรือการตัดสินใจอะไรบางอย่างของมนุษย์ที่ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปหรือดูโง่ ๆ ในบางทีออกมา



                                ภาพที่ 2 จิตวิทยาการเลือกเรียน


Richard H. Taylor ผู้ที่ซึ่งปฏิวัติความรู้เรื่องนี้ เพิ่งได้รางวัลโนเบลสาจาเศรษฐศาสตร์ไป จากผลงานเรื่องเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม ซึ่งเป็นการรวมความเข้าใจด้านจิตวิทยาไปผสมผสานกับเรื่องเศรษฐศาสตร์ ทำให้นักเศรษฐศาสตร์นั้นสามารถทำความเข้าใจในการตัดสินใจของมนุษย์มากขึ้น และด้วยความรู้นี้ หลาย ๆ องค์กรและแบรนด์ต่าง ๆ ก็เอามาประยุกต์ใช้กับการทำการตลาดของแบรนด์ได้ ด้วยการทำการทดลองหรือทำการสำรวจขนาดใหญ่ขึ้นมาเพื่อหาข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณเป็นแบรนด์เล็ก ๆ หรือเจ้าของกิจการเองจทำอย่างไรดีในเมื่อไม่มีงบที่จะทำแบบนั้น โชคดีที่มีการทดลองที่ผ่านมาและเป้นพื้นฐานที่สามารถเอามาปรับใช้กับแบรนด์เล็ก ๆ หรือทำเองได้เลย และนี้คือ 9 ข้อทางจิตวิทยาที่นักการตลาดสามารถเอาไปใช้ได้ทันที

1. Choice Paradox : อย่าให้ตัวเลือกกับผู้บริโภคมากไปเพราะผู้บริโภคจะเลือกไม่ถูก นี้เป็นกฏทางจิตวิทยาง่าย ๆ ที่เรียกว่า Choice Paradox เพราะเมื่อมีตัวเลือกเกิน 5 ตัวขึ้นไป สมองจะไม่อยากเปรียบเทียบตัวเลือกจน ผู้บริโภคจะไม่อยากเลือกตัวเลือกต่าง ๆ เลย  และตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดควรมี 3 ข้อเท่านั้น

2. Simple : จริง ๆ สมองของมนุษย์นั้นไม่ชอบทำงานหนักมาก หรือเลือกที่จะทำงาน ดังนั้นถ้าอะไรที่มีขั้นตอนความซับซ้อนมากเกินไป หรือมีความเยอะเกิน ผู้บริโภคจะถูกสมองสั่งงานทันทีให้ทิ้งสิ่งที่ทำไปหาอย่างอื่นทำแทนหรือหาสิ่งที่ง่ายกว่าทำขึ้นมาแทน

3. Don’t Hard :  สมองของมนุษย์นั้นต้องการอะไรที่ง่าย ๆ หรือไม่สร้างความสับสน ดังนั้นการมีข้อมูลที่หาได้ง่ายหรือเจอได้ง่ายในทุกที อ่านแล้วเข้าใจได้เลย เช่นการบอกเลยให้ชัดเจนว่าผู้บริโภคต้องทำอะไร จะทำให้ผู้บริโภคใช้งานได้ดีขึ้น

4. More Info :  เมื่อเวลาที่ผู้บริโภคตัดสินใจที่อยากจะได้ข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม หรือมีคำถาม สิ่งที่ควรทำคือการมอบประสบการณ์ข้อมูลอื่น ๆ ง่าย ๆ เพื่อทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่มีข้อสงสัยและรู้สึกเกิดความปลอดภัยในการเลือกตัวเลือกนี้ขึ้นมา

5. Complementary product : การมอบของแถม เหมือนการให้ Reward ในทางจิตวิทยาแบบหนึ่งตามหลักการของ ฟรอยด์ ทำให้เกิดการจดจำทางสมองว่า เมื่อกระทำอะไรแบบหนึ่งเช่นการซื้อ หรือการใช้บริการ จะได้ reward กลับมา ซึ่งทำให้ผู้บริโภคจะกลับมาใช้บริการอีกครั้งเพื่อให้ได้ reward นี้

6.  Free Item : นักวิจัยพบว่า มนุษย์นั้นตัดสินใจปราศจากเหตุผลอย่างมากในการซื้อสินค้า เมื่อเห็นว่าจะได้ของฟรีแถม เช่น การซื้อเสื้อผ้าที่ไม่ได้อยากได้ เพราะมีเสื้อผ้าแถม หรืออย่าง amazon ที่ให้ส่งฟรีเป็นการแถม ทำให้คนนั้นสั่งของเพิ่มขึ้นอยากมาก แม้ว่าของนั้นจะไม่ใช่ของที่อยากได้ก็ตาม

7. Price Anchoring : การสร้างกลยุทธ์ราคา ที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้นผ่านตัวเลือกที่สมเหตุผล เช่นการทำให้รู้สึกว่าราคาที่ซื้อหรือกำลังเปรียบเทียบอยู่นั้นคุ้มค่าอย่างมาก โดยการเอาราคาที่แพงกว่าและดูไม่คุ้ม กับราคาที่ถูกกว่าแต่ไม่คุ้ม เปรียบเทียบกับราคาที่เราต้องการให้เลือก จะทำให้ผู้บริโภคเลือกตัวเลือกที่เราต้องการให้เลือกได้ทันที

8. Environment Shift : สิ่งที่ได้ผลคือการเข้าใจ Context ของผู้บริโภคที่อยากจะได้ และนำเสนอข้อมูล สินค้าและบริการที่จะช่วยการให้ไปถึงเป้าหมายใน Context นั้นง่ายขึ้นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น ในกลุ่มคนอยากมีสุขภาพดี หรืออยากออกกำลังกายนั้น สามารถนำเสนออาหารเพื่อสุขภาพ อาหารเสริมวิตามินต่าง ๆ ขึ้นมาได้อย่างทัน และทำให้คนที่กำลังมีเป้าหมายนี้ซื้อของได้โดยไม่รู้ตัว หรือการโชว์สินค้าเหล่านี้คู่กับโฆษณาสุขภาพดีก็สามารถช่วยขับเคลื่อนการขายได้ด้วย

9. IKEA effect : นักวิจัยพบว่า เมื่อคนนั้นลงแรงกับสิ่งหนึ่ง สิ่งใดไป ย่อมให้มูลค่าสิ่งนั้นมากกว่าปกติ และเกิดความผูกพันธ์มากกกว่าปกติอย่างมาก เมื่อผู้สร้างให้ผู้บริโภคลงแรงกับอะไรบางอย่างหรือใช้เวลากับอะไรบางย่อมทำให้ผู้บริโภครู้สึกมีคุณค่าทางใจเพิ่มขึ้นมาอีก ดังนั้นการให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมหรือสามารถลงแรงเล็ก ๆ น้อย ๆ บางอย่างได้ ทำให้สินค้านั้นขายดีขึ้นมาอีกได้เลย

          สำหรับเส้นทางการเลือกเรียนรายวิชาเพิ่มเติมเลือก กลุ่ม 1 ที่มีถึง 16 รายวิชา โดยคุณครูผู้สอนสามารถทดลองสอนเพียง 1 คาบ 50นาที น่าจะต้องใช้ ยุทธศาสตร์ เทคนิค ทฤษฎีจิตวิทยาเป็นอันมาก เพื่อที่จะได้นักเรียน ที่จะเลือกเรียนในรายวิชาของตนเอง แต่ในที่สุดแล้ว ก็มีเพียงแต่นักเรียนคงจะต้องเลือกเส้นทางที่ฉันเลือกเอง  สัก 1 วิชา เพื่อที่จะเรียนต่อเนื่อง ไปตลอด 1 ปีการศึกษา หรือ 3 ปีการศึกษาต่อเนื่อง

                                                                           


                                                      ภาพที่ 3 เส้นทางที่ฉันเลือกเอง

 

อารยะทางสายศิลป์กลุ่มดนตรีมีให้เลือกหลากหลาย วิธีเลือกเครื่องดนตรีที่อยากเล่น

นักเรียนหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบในเสียงดนตรีและอยากเล่นดนตรี แต่ไม่ทราบว่าจะต้องเริ่มอย่างไรดี ดังนั้นก่อนที่จะเลือกเครื่องดนตรี คุณควรที่จะรู้จักมันเสียก่อน ในปัจจุบันการเลือกเครื่องดนตรีเป็นอะไรที่ง่ายมาก แต่นักเรียนควรจะเข้าใจรสนิยมของตนเองก่อน  สำหรับโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร(ฝ่ายมัธยม) รายวิชาเพิ่มเติมเลือก กลุ่ม1 มีวิชาให้เลือกถึง 8 วิชา ได้แก่ ดนตรีเครื่องสายไทย ปี่พาทย์ ดนตรีพื้นบ้าน กีตาร์คลาสสิก ขับร้องประสานเสียง ดนตรีเครื่องสายสากล(ไวโอลิน)  ดนตรีเครื่องเป่าในวงโยวาทิต นาฏศิลป์ละคร และนาฏศิลป์โขน  มีให้เลือกกันเยอะเลยครับ  จึงขอคำแนะนำเพื่อจะเป็นคำถามที่นักเรียนควรถามตัวเองก่อนที่จะเลือกเครื่องดนตรีที่อยากเล่น หรือเส้นทางอารยะทางสายศิลป์อย่างไร

1. นักเรียนชอบดนตรีแนวไหน   คำถามนี้เป็นอะไรที่ตรงประเด็นมาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้านักเรียนชอบฟังเพลงแนวอคูสติกโฟร์คซอง กลองชุดคงจะไม่เหมาะกับคุณสักเท่าไหร่แม้มันจะดูน่าสนุกสักแค่ไหนก็ตาม

2. ในสถานการณ์แบบไหนที่คุณคาดว่าคุณจะมีโอกาสได้แสดง  เล่นในวงเครื่องสายฟังดูเป็นไง  ถ้าคำตอบของนักเรียนคือนี่แหละวงที่ผมอยากแจมด้วย ไวโอลิน หรือ แซกโซโฟน น่าจะเป็นเครื่องดนตรีที่เหมาะกับคุณ แต่ถ้ามีชอบความเป็นส่วนตัว เปียโนก็อาจเป็นเครื่องที่เหมาะกับคุณมากกว่า สำหรับโรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) นอกจากรายวิชาเพิ่มเติมเลือกแล้ว เรายังมีชมรมลองรับ เพื่อโอกาสในการแสดงออกของนักเรียนอย่างหลากหลาย ได้แก่ ชมดนตรีไทย ชมรมแชมเบอร์ ออเครสตร้า ชมรมวงโยธวาทิต ชมรมขับร้องประสานเสียง ชมรมกีตาร์คลาสสิก และชมรมการแสดงนาฏศิลป์โขน-ละคร

3. มีงบประมาณการซื้ออุปกรณ์เท่าไหร่  เครื่องดนตรีส่วนใหญ่มีราคาค่อนข้างสูง แต่บางอย่างก็ถูกจนน่าเหลือเชื่อเช่นกันยกตัวอย่างเช่น ขลุ่ยไอริชวิสเซิล ซึ่งเลานึงราคาประมาณ 300 – 500 บาท กีตาร์โป่ง ตามท้องตลาดที่ขายเยอะๆ ก็เริ่มมีราคาถูกลง อย่างไรก็ตามน่าจะเลือกตามระยะเวลาการวางแผนการเล่น ถ้าคิดว่าเพียงทดลอง ก็อาจจะเลือกซื้อในรุ่น ในราคา ที่เริ่มต้นก่อน ของแต่ละเครื่องมือ เช่น ไวโอลิน ราคา ของรุ่นเบื้องต้น ก็น่าจะประมาณ 3,000 – 5,000 บาท  ถ้าเป็นเครื่องกีตาร์โป่ง ราคาและรุ่น เบื้องต้น ก็อาจจะหาซื้อได้ ตั้งแต่ 1,500  - 5,000 บาท เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่สถานที่ซื้อของร้านค้า เช่น เป็นร้านที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือเป็นร้านที่แยกออกมาต่างหาก เช่น ยงเส็ง ฮ่งเส็ง ร้านค้าในย่านเวิ้งนครเกษฒที่ได้ปิดตัวลงไปแล้ว แยกออกมาเปิดเองต่างหาก หรือที่จะถูกหน่อย ก็จะเป็นร้านค้าย่านแถวปากครองตลาด ที่ยังเปิดขายอยู่

4. สถานที่ซ้อมที่คุณมีเป็นแบบไหน ถ้าบ้านนักเรียนอยู่ในที่ๆต้องใช้ฝึกซ้อม เครื่องดนตรีที่เสียงดังอาจไม่เหมาะกับสถานที่นั้นเนื่องจากจะเป็นการรบกวนเพื่อนบ้านคุณ ถ้าชอบกลอง อาจจะลองนึกถึงกลองไฟฟ้า อย่างไรการฝึกซ้อมดนตรีในบ้านท่านผู้ปกครองควรมีความเข้าใจเบื้องต้นไว้ก่อน ว่าต้นไม้จะออกดอกออกผลฉันใด ดนตรีก็เช่นกันมันต้องใช้เวลา เพาะบ่มฝึกซ้อม จนเกิดความงามของเสียง เพราะฉนั้น การฝึกซ้อมในช่วงที่เริ่มเรียนใหม่ๆ ต้องเข้าใจ ต้องชมและให้กำลังใจเท่านั้นครับ ไม่เช่นนั้นแล้ว บุตรหลานของท่านก็จะท้อถอย และเลิกฝึกซ้อม หรือ จนเลยไปถึงเลิกเล่นกันไปเลยก็มีให้ดห็นหลายครอบครับแล้วครับ

5. หาครูสอนยากไหม  เครื่องดนตรีอย่างเช่น เปียโน ไวโอลิน กีตาร์ คงจะหาครูสอนได้ไม่ยากในละแวกบ้าน แต่ถ้านักเรียนอยากเล่นเครื่องที่มีคนเล่นน้อยอย่าง เชลโล่ ดับเบิ้ลเบส ทูบา ไซโลโฟน  นักเรียนอาจจะหาครูได้ยากลำบากหน่อย แต่ในระบบโรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) ถือว่ามีความพร้อมที่จะสามารถสอนเครื่องดนตรีที่หาเรียนได้ยากในท้องตลาด เช่น เชลโล่ ทูบา ของเราที่นี่มีคุณครูเฉพาะทางเครื่องมือเหล่านี้โดยตรง

6. มีเวลามากแค่ไหนสำหรับดนตรี  แน่นอนว่าดนตรีเป็นอะไรที่คุณต้องลงทุนกับเวลาค่อนข้างพอสมควรกว่าจะเล่นได้ในระดับที่ดี ดังนั้นถ้านักเรียนมีเวลาน้อย ก็อาจจะเลือกเล่นเครื่องที่ใช้เทคนิคไม่เยอะมาก เช่น เลือกอูคูเลเล่ แทนที่จะเล่นกีตาร์คลาสสิค ในแต่ละเครื่องดนตรีจะมีความยากง่ายต่างกัน และระยะเวลาฝึกเริ่มต้นก็ต่างกัน

 

7. ข้อจำกัดทางร่างกาย  เช่น กรณีของเครื่องเป่าถ้านักเรียนยกของหนักไม่ไหว เครื่องเป่าทองเหลืองทูบา ทรอมโบน อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก หรืออาจจะเป็นลักษณะของรูปปาก บางเครื่องดนตรีก็จะมีข้อจำกัดทางร่างกายที่มีความเหมาะสมเฉพาะเครื่อง บางเครื่องดนตรีก็สามารถเล่นได้กันทุกคน

 8. ต้องการร้องและเล่นดนตรีไปพร้อมกันไหม ถ้าคำตอบของนักเรียนคือ ใช่ นักเรียนควรจะเลือก เปียโนหรือกีตาร์หรืออาจจะเป็นอูคูเลเล่ก็ได้ ที่เป็นเครื่องดนตรีที่พร้อมที่จะเล่นบรรเลงประกอบกับการร้องเพลงไปได้ด้วยเลย

          9. อยากเรียนรู้เรื่องการอ่านโน้ตหรือไม่  ถ้านักเรียนเรียนดนตรีคลาสสิก ก็จะจำเป็นต้องฝึกอ่านโน้ต และนักดนตรีแจ๊สก็เช่นกัน ในทางกลับกันถ้านักเรียนคิดว่าไม่มีเวลาฝึกอ่านโน้ต ก็อาจจะเลือกเล่นดนตรีกีตาร์ป้อป แต่สำหรับการเรียนการสอนดนตรีในประเทศไทย ผู้เขียนบทความเข้าใจว่านักเรียนเรียนอ่านโน้ต หรือทฤษฎีดนตรีในหลักสูตรดนตรีพื้นฐานมามากพอแล้ว คือเรียนทฤษฎีการอ่านโน้ตกันมาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรียนมาตลอด แต่ก็ยังเข้าว่าตนเองอ่านโน้ตไม่เป็น จริงๆแล้วไม่ใช่ครับ คือการเรียนอ่านโน้ต ต้องเป็นการเรียนที่นำไปใช้กับการปฏิบัติเครื่องดนตรี แต่ในระบบพื้นฐานของเราอาจจะไม่สามารถจัดการสอนแบบอ่านโน้ตเพื่อปฏิบัติเครื่องดนตรีไปด้วย ก็เลยเข้าใจกันไปเองว่าอ่านโน้ตยาก

10. อยากโดดเด่นไหม ถ้าอยากเป็นเช่นนั้นก็เป็นการดีถ้านักเรียนจะเลือกเครื่องดนตรีที่มี solo เยอะ เช่น กีตาร์ หรือขับร้อง เพราะสามารถโชว์อยู่หน้าวงดนตรี  แต่ถ้าเป็นเครื่องดนตรี ไวโอลิน หรือ ฟลุ๊ต การที่จะโชว์อยู่หน่าวงออเครสตร้า นักเรียนอาจจะต้องอยู่การบรรเลงแบบแถวหน้า หรือการเรียนต่อเนื่องจนเกิคความเก่งทางดนตรี เพื่อที่จะ Solo หน้าวง

11. สามารถร่วมเล่นกับเพื่อนๆ รอบข้างได้ไหม ดนตรีบางแนวเหมาะสำหรับการเล่นร่วมวงกันมาก ๆ เช่น วงสตริง ลองคิดเล่น ๆ ดูว่ามันจะสนุกแค่ไหน เวลาคุณบรรเลงกีตาร์ร่วมกับมือกลอง เบส นักร้อง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนของนักเรียนจากทุกข้อที่บอกมาผู้อ่านคงจะมีเครื่องดนตรีในใจแล้วใช่มั้ยครับ สนใจเรียนดนตรีสามารถเลือกเพิ่มเติมเลือกวิชาดนตรี ตามอารยะทางศิลป์ของโรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร(ฝ่ายมัธยม) ที่มีให้เลือกถึง 8 รายวิชา

 

เพิ่มเติมเลือกมัธยมศึกตอนต้น เพื่อเตรียมสู่วิชาเอกมัธยมศึกษาตอนปลาย

      สำหรับการเรียนรายวิชาเพิ่มเติมเลือกดนตรี และนาฏศิลป์โขน ละคร  ก็สามารถที่จะเลือกเรียนต่อเนื่อง 3 ชั้นปี ในรายวิชาเพิ่มเติมเลือก และสหวิทยาการ(เตรียมวิชาเอก) เพื่อเป็นการเตรียมตัวในการที่เลือกเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่จัดการเรียนการสอน เป็นรายวิชาเอก 29 วิชาเอก ซึ่งรายวิชาเอกดุริยางคศิลป์ และศิลปกรรมการแสดงและภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ที่เป็นวิชาเอกเฉพาะทาง  ซึ่งมีเกณฑ์ในการสอบเข้าภาคปฏิบัติ ที่ต้องใช้เวลา ระยะเวลาในการฝึกสะสม ความสามารถในการเรียน เตรียมตัวที่ต้องใช้เวลาระยะยาว เป็นวิชาที่ไม่สามารถมาติวเตรียมสอบ ในระยะเวลาใกล้ๆ หรือระยะสั้น

 

หลักสูตรวิชาเอกดุริยางคศิลป์ โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม)

จุดมุ่งหมายหลักสูตรวิชาดนตรี  รู้และเข้าใจถึงความแตกต่างทางด้านเสียง องค์ประกอบ อารมณ์ ความรู้สึกของบทเพลงจากวัฒนธรรมต่าง ๆ มีทักษะในการร้อง บรรเลงเครื่องดนตรี ทั้งเดี่ยวและเป็นวงโดยเน้นเทคนิคการร้องบรรเลงอย่างมีคุณภาพ มีทักษะในการสร้างสรรค์บทเพลงอย่างง่าย อ่านเขียนโน้ต ในบันไดเสียงที่มีเครื่องหมาย แปลงเสียงเบื้องต้นได้ รู้และเข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลต่อรูปแบบของผลงานทางดนตรี องค์ประกอบของผลงานด้านดนตรีกับศิลปะแขนงอื่น แสดงความคิดเห็นและบรรยายอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อบทเพลง สามารถนำเสนอบทเพลงที่ชื่นชอบได้อย่างมีเหตุผล      มีทักษะในการประเมินคุณภาพของบทเพลงและการแสดงดนตรี  รู้ถึงอาชีพต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับดนตรีและบทบาทของดนตรีในธุรกิจบันเทิง เข้าใจถึงอิทธิพลของดนตรีที่มีต่อบุคคลและสังคม

              

          หลักสูตรวิชาเอกดุริยางคศิลป์ เริ่มเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ ปีการศึกษา 2547 จนถึงปัจจับัน เป็นหลักสูตรที่เปิดมา แล้ว 17 ปี นักเรียนที่จบหลักสูตรวิชาเอกดุริยางคศิลป์สามารถศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ได้เป็นอย่างดี และนักเรียนวิชาเอกดุริยางคศิลป์ที่จบการศึกษาจากโรงเรียนไปแล้วสามารถประสปความสำเร็จ สร้างชื่อเสียงในวงการบันเทิง และดนตรี อทิเช่น อิ้งค์ วรันธร เปานิล,  กันต์ ชุณหวัตร,ซี ดี กันต์ธีร์ ปิติธัญ,     มาตัง ระดับดาว ศรีระวงศ์ เดอะสตาร์ และศิษย์ปัจจุบันที่กำลังศึกษาอยู่วิชาเอกดุริยางคศิลป์ ได้แก่ น้องอ๊ะอาย กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ 4EVE, เนเน่ ณัฐวลัญช์ ตาคะนานันท์ ทศเกิร์ล เป็นต้น

มีคำกล่าวที่ว่า การค้นพบตัวตนได้เร็ว จะทำให้เราสนุกกับการเรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพ เมื่อค้นพบตัวตน ค้นหาความฝันเจอแล้ว จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าไม่ลงมือทำให้เกิดขึ้นจริง และทำให้สำเร็จ หมั่นเติมไฟให้ตัวเองว่า เราโชคดีแค่ไหนที่ได้ทำในสิ่งที่รัก ได้เจองานที่ใช่ ลงมือทำและทุ่มเทให้คุ้มค่ากับความฝัน ทำให้เต็มที่ในทุกวัน และทำให้ดีที่สุดในทุกโอกาส วิชาเอกดุริยางคศิลป์ เป็นประตูสู่อารยะทางสายศิลป์ ยินดีต้อนรับนักเรียนทุกท่านสู่โลกดนตรี

 

อ้างอิง

ยงยุทธ เอี่ยมสอาด.(2554). ปัจจัยที่มีผลต่อการฝึกซ้อมของนักเรียนรายวิชาเพิ่มเติมเลือกดนตรี โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร(ฝ่ายมัธยม ),กรุงเทพฯ

ยงยุทธ เอี่ยมสอาด. (2563).การประเมินหลักสูตรวิชาเอกดุริยางคศิลป์ โรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร(ฝ่ายมัธยม) โดยใช้ CIPP Model, กรุงเทพฯ

Richard Thaler.(2560).  แนวคิดเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมผู้ค้นพบความไร้เหตุผลของมนุษย์

 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น