สถาปัตยกรรมไม้ ทำด้วยหัวใจ ฝากไว้ให้แผ่นดิน
นายยงยุทธ เอี่ยมสอาด
ทำด้วยหัวใจ เป็นเรื่องที่น่ายินดีนะครับกับสถานการณ์ปัจจุบันในเมืองไทยที่จะมีความสงบสุข ความเรียบร้อยกับคืนมา และยิ่งเข้าช่วงใกล้เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองในวันปีใหม่ที่จะมาถึงอีกไม่กี่วันเราคงจะไม่ต้องร้องเพลงยาวพยากรณ์อยุธยากันแล้วนะครับ จริงๆแล้วในการดำรงชีวิตไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไรก็ต้องการความสงบของจิตใจ ความเรียบร้อยของบ้านเมือง ถ้ามีได้ตลอดไปสยามเมืองยิ้มก็คงจะยิ้มออกอีกครั้ง ครับในช่วงใกล้วันหยุดยาวในเทศกาลวันปีใหม่นอกจากการกลับบ้าน การได้ไปทำบุญไหว้พระ ไหว้ญาติผู้ใหญ่ การได้อยู่กับครอบครัวแล้วก็คงจะมีอีกหลายๆครอบครัวที่จะพากันหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อเป็นการพักผ่อนหย่อนใจในการเป็นเติมพลังเพื่อจะได้กลับไปต่อสู้ดำรงในวิถีที่เป็นปัจจุบันได้อีกครั้ง ที่จริงผมมีสถานที่หนึ่งที่จะพาท่านๆไปเที่ยวเมืองไทย ที่เรียกได้ว่าเที่ยวเมืองไทยไปวันเดียวก็คือเมืองโบราณนั่นเอง แต่ก็มีอีกสถานที่นึงที่อยากจะแนะนำในวันนี้ เป็นผลงานที่ทำต่อเนื่องจากเมืองโบราณ จากผู้ชายชื่อเล็ก แต่สร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ ที่ทำด้วยหัวใจจริงๆ
ชื่อเล็ก แต่ยิ่งใหญ่ เล็ก วิริยะพันธุ์ เป็นบุตรชายคนโตของนายชีเซ็ง เจ้าของร้านขายยาเทียนแซตึ๊ง ย่านสำเพ็ง พระนคร เกิดเมื่อปีขาล พ.ศ. ๒๔๕๗ ตามความนิยมในยุคนั้น ทางบ้านได้ส่งนายเล็กให้กลับไปเรียนหนังสือในเมืองจีน เมื่ออายุ ๑๗ ปี นายเล็กสอบเข้าเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้ เซี่ยงไฮ้ในยุคนั้น มีผู้เปรียบว่าเป็นเสมือนปารีสแห่งตะวันออก ที่เต็มไปด้วยแสงสี ตึกรามบ้านช่องใหญ่โตโอฬาร เป็นศูนย์กลางการศึกษา การค้า และการลงทุนจากชาติตะวันตก ประสบการณ์ชีวิตในมหานครเซี่ยงไฮ้ ผนวกกับความเข้มแข็งของวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม อันเป็นแม่แบบแห่งอารยธรรมตะวันออกสายสำคัญ เหล่านี้ได้หล่อหลอมให้นายเล็กเป็นคนสองโลก
ในทางหนึ่ง ท่ามกลางความก้าวหน้าทางวิทยาการของศตวรรษที่ ๒๐ เขาตระหนักดีว่า ชีวิตของมนุษย์ในโลกสมัยใหม่นี้ จะหลีกเลี่ยงจากเทคโนโลยีจักรกลของตะวันตกไม่ได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ภูมิปัญญาตะวันออกอันหยั่งรากในความนอบน้อมต่อธรรมชาติ และการเคารพบรรพชน ก็เป็นความลึกซึ้งทางจิตวิญญาณที่จำเป็นแก่ความเป็นมนุษย์
เมื่อบิดาป่วยหนัก นายเล็กในวัย ๒๐ ต้น ๆ ก็ต้องกลับมาสยาม หลังจากนั้นไม่นาน นายชีเซ็งก็ถึงแก่กรรม ทิ้งกิจการเทียนแซตึ๊งไว้ให้เขาสืบต่อ ด้วยเหตุแห่งการติดต่อค้าขายนี่เอง ชักนำให้นายเล็กได้พบกับนางสาวประไพ วิริยะพานิช ธิดาของขุนวิจารณ์พานิช (ชุ่ม) คหบดีชาวแปดริ้ว ผู้ผลิตยาไทยหลายขนาน และน้ำมันทาไม้ตราปลาตะเพียน ในนามห้างน้ำมันวิริยะพานิช ย่านสามแยก ทั้งสองแต่งงานกันในปี พ.ศ. ๒๔๘๑
ในวัยไม่ถึง ๔๐ ปี เล็ก วิริยะพันธุ์ สามารถขึ้นมายืนแถวหน้าในฐานะนักธุรกิจชั้นนำของประเทศในช่วงวัย ๔๐-๕๐ ปีของนายเล็ก วิริยะพันธุ์ อาจจะเรียกได้ว่า เป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบสำหรับปุถุชนทั่วไป เขาเป็น เสี่ยเล็ก เจ้าของกิจการค้ามากมาย มีฐานะอยู่ในระดับเศรษฐีคนหนึ่งของประเทศ มีครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นด้วยลูกชายหญิงถึงหกคน แวดล้อมด้วยวงสังคมระดับไฮโซ... แต่บางทีนั่นอาจจะยังไม่พอ...
ข้าพเจ้าเชื่อว่าศีลธรรมของพลโลกปัจจุบันนี้เสื่อมลง ในขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าก็ไม่ปฏิเสธว่า วิทยาศาสตร์เจริญมีคุณค่าที่ปรากฏแก่มวลมนุษย์ ไม่มียุคไหนเทียบเท่า แต่ชาวตะวันออกเราเชื่อว่า วิทยาศาสตร์สามารถให้ความรู้แก่มนุษย์ได้ แต่ไม่สามารถที่จะยกระดับจิตของมนุษย์ให้สูงขึ้นได้ มีแต่ทำให้ผู้คนนับถือลัทธิวัตถุนิยม มุ่งแต่ความสุขทางโลก
ในทางหนึ่ง ท่ามกลางความก้าวหน้าทางวิทยาการของศตวรรษที่ ๒๐ เขาตระหนักดีว่า ชีวิตของมนุษย์ในโลกสมัยใหม่นี้ จะหลีกเลี่ยงจากเทคโนโลยีจักรกลของตะวันตกไม่ได้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ภูมิปัญญาตะวันออกอันหยั่งรากในความนอบน้อมต่อธรรมชาติ และการเคารพบรรพชน ก็เป็นความลึกซึ้งทางจิตวิญญาณที่จำเป็นแก่ความเป็นมนุษย์
เมื่อบิดาป่วยหนัก นายเล็กในวัย ๒๐ ต้น ๆ ก็ต้องกลับมาสยาม หลังจากนั้นไม่นาน นายชีเซ็งก็ถึงแก่กรรม ทิ้งกิจการเทียนแซตึ๊งไว้ให้เขาสืบต่อ ด้วยเหตุแห่งการติดต่อค้าขายนี่เอง ชักนำให้นายเล็กได้พบกับนางสาวประไพ วิริยะพานิช ธิดาของขุนวิจารณ์พานิช (ชุ่ม) คหบดีชาวแปดริ้ว ผู้ผลิตยาไทยหลายขนาน และน้ำมันทาไม้ตราปลาตะเพียน ในนามห้างน้ำมันวิริยะพานิช ย่านสามแยก ทั้งสองแต่งงานกันในปี พ.ศ. ๒๔๘๑
ในวัยไม่ถึง ๔๐ ปี เล็ก วิริยะพันธุ์ สามารถขึ้นมายืนแถวหน้าในฐานะนักธุรกิจชั้นนำของประเทศในช่วงวัย ๔๐-๕๐ ปีของนายเล็ก วิริยะพันธุ์ อาจจะเรียกได้ว่า เป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบสำหรับปุถุชนทั่วไป เขาเป็น เสี่ยเล็ก เจ้าของกิจการค้ามากมาย มีฐานะอยู่ในระดับเศรษฐีคนหนึ่งของประเทศ มีครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นด้วยลูกชายหญิงถึงหกคน แวดล้อมด้วยวงสังคมระดับไฮโซ... แต่บางทีนั่นอาจจะยังไม่พอ...
ข้าพเจ้าเชื่อว่าศีลธรรมของพลโลกปัจจุบันนี้เสื่อมลง ในขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าก็ไม่ปฏิเสธว่า วิทยาศาสตร์เจริญมีคุณค่าที่ปรากฏแก่มวลมนุษย์ ไม่มียุคไหนเทียบเท่า แต่ชาวตะวันออกเราเชื่อว่า วิทยาศาสตร์สามารถให้ความรู้แก่มนุษย์ได้ แต่ไม่สามารถที่จะยกระดับจิตของมนุษย์ให้สูงขึ้นได้ มีแต่ทำให้ผู้คนนับถือลัทธิวัตถุนิยม มุ่งแต่ความสุขทางโลก
สถาปัตยกรรมไม้ ปราสาทไม้สัจธรรม ในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ เขาเริ่มโครงการใหม่ที่ริมทะเลแหลมราชเวช อำเภอบางละมุง ชลบุรี ใกล้พัทยาเหนือ แม้ว่าแต่แรกจะเป็นการขออนุญาตทำการก่อสร้างอาคารหอประชุม แต่ดูเหมือนว่าก็เช่นเดียวกับเมืองโบราณ นั่นคือเมื่อทำการก่อสร้างไปเรื่อย ๆ ปราสาทไม้ หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า ปราสาทสัจธรรม กลับขยายขนาดขึ้นทุกที ๆ จนกลายเป็นการพรรณนาความคิดคำนึง ของคุณเล็กผ่านรูปแบบศิลปะ ที่สังเคราะห์ขึ้นจากศิลปะตะวันออก จากหลายแหล่งอารยธรรม
สัจธรรม ที่ปราสาทจตุรมุของค์นี้มุ่งประกาศก็คือ ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับจักรวาล อันได้แก่ พ่อ แม่ ดิน ฟ้า พระอาทิตย์ พระจันทร์ และดวงดาว ความเชื่อพื้นฐานอย่างหนึ่งในการก่อสร้างปราสาทไม้ก็คือ ไม้เป็นวัสดุที่จะทนทานไปได้นานกว่าอิฐปูน อีกทั้งในหลักฐานประวัติศาสตร์ของไทย ก็เคยปรากฏว่ามีอาคารไม้ขนาดสูงนับร้อยเมตรมาแล้ว ดังนั้น คุณเล็กจึงให้สร้างปราสาทขึ้นด้วยไม้ทั้งหลัง โดยไม่ใช้โลหะหรือปูนใดใดเลย ยกเว้นฐานรากที่เป็นคอนกรีต แม้แต่สลักที่ใช้ยึดไม้แต่ละชิ้นก็ต้องเป็นไม้ด้วยกัน
ปรัชญาตะวันออกปลูกค่านิยมเยาวชน ความประสงค์อย่างหนึ่งของคุณเล็กก็คือ ต้องการเปลี่ยนความรับรู้ของผู้คน จากที่ว่าพัทยาเป็นแดนคนบาป อันเต็มไปด้วยโลกียสถานกระฉ่อนโลก ให้มาเป็นเรื่องความยิ่งใหญ่ทางอารยธรรม และปรัชญาของเมืองไทย หลักฐานความอลังการของปราสาทองค์นี้ก็คือ หลังจากเริ่มก่อสร้างมา ๒๐ ปี ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะสำเร็จลงได้เมื่อใดแน่ ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะชิ้นงานแต่ละชิ้น ที่มีน้ำหนักเป็นตัน ๆ ล้วนแต่ต้องมีการสลักเสลากันจนไม่มีที่ว่าง ช่างสลักไม้ในเมืองโบราณ ที่เราเห็นนั่งทำงานกันอยู่เป็นชาวเพชรบุรี ก็กำลังสร้างสรรค์ส่วนประกอบของปราสาทสัจธรรมนี่เอง
ปราสาทสัจธรรมแห่งนี้ หากใครได้ไปดู จะเห็นได้ถึงความเคลื่อนไหวของเทพเจ้าต่างๆ ซึ่งลวดลายต่างๆ ล้วนแต่คัด ลอกมาจากแหล่งต่างๆ ทั้งมาจากหนังสือ งานแกะ งานฝาผนังตามสถานที่ ต่างๆ มารวมกัน ไม่ว่าศิลปะเขมร พุทธ ฮินดู อิสลาม จีน มาประกอบ รวมกัน โดยสร้างเป็นรูปสัญลักษณ์ แทนความหมายที่ต้องการสื่อให้เห็น ที่เป็นแกนที่สุดของสัจธรรมก็คือ ตรงกลางซึ่งจะเป็นบุษบก แต่บุษบกนั้นจะว่างเปล่า เพราะหมายถึงว่า ถ้ามนุษย์เราประพฤติอยู่ในธรรม ก็สามารถไปอยู่ในนั้นได้ ตรงกลางของปราสาทสัจธรรม คือสิ่งที่ว่างเปล่า นี่คือความคิดของคุณเล็ก จุดมุ่งหมายสำคัญของเสี่ยเล็กที่ลงทุนสร้างปราสาทสัจธรรมคือ มุ่งเน้นให้เยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้ในเรื่องคุณธรรม ศีลธรรมเป็นหลัก เพราะเป็นสิ่งที่สภาพสังคมขาด แคลน และไม่เคยได้รับการกระตุ้น แม้ว่าโปรเจ็กต์ดังกล่าวจะต้องใช้เงินลงทุนมากมายมหาศาลเพียงแต่ เจ้าหน้าที่ในปราสาทสัจธรรมที่คลุกคลีอยู่ใน สถานที่ดังกล่าวประเมินค่าใช้จ่ายต่างๆ ในแต่ละปีอย่างคร่าวๆ ว่า อย่างน้อยเสี่ยเล็กจะต้องเสียเงินในการสร้างปราสาทสัจธรรมต่อปีไม่ต่ำกว่า ๖๐ ล้านบาท ซึ่งระยะเวลา ๒๐ ปีที่ผ่านมา น่าจะเสียค่าใช้จ่ายไปแล้วไม่ต่ำ กว่า ๑,๒๐๐ ล้านบาท
ปราสาทสัจธรรมแห่งนี้ จุดเด่นอันเป็นสิ่ง สำคัญคือความเป็นปราสาทไม้ และเป็นปราสาทไม้หลังใหญ่ที่สุดในโลกที่ใช้ เทคนิควิธีการก่อสร้างแบบไทย โดยอาศัยการเข้าลิ่ม และไม่มีการตอกตะปู เลยแม้แต่ตัวเดียวถึงวันนี้
ปราสาทสัจธรรมแห่งนี้ จุดเด่นอันเป็นสิ่ง สำคัญคือความเป็นปราสาทไม้ และเป็นปราสาทไม้หลังใหญ่ที่สุดในโลกที่ใช้ เทคนิควิธีการก่อสร้างแบบไทย โดยอาศัยการเข้าลิ่ม และไม่มีการตอกตะปู เลยแม้แต่ตัวเดียวถึงวันนี้
ฝากไว้ให้แผ่นดิน แม้จะยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แต่ก็สามารถเดิน ขึ้นไปชมภายในปราสาทได้ เพราะบริเวณฐานรากซึ่งเป็นพื้นของอาคารได้ทำ เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยพื้นทั้งหมดปูด้วยไม้กระดานแผ่นใหญ่ขนาดกว้างเป็น เมตร และรับกับต้นเสาไม้ใหญ่ที่มีขนาดความ กว้างโดยรอบถึงสามคนโอบ ซึ่งใช้เป็นเสาแบกรับโครงสร้างส่วนบนที่เป็นโครง จำนวน ๘ คู่ คงต้องเรียกได้ว่า ปราสาทหลังนี้ไม่มีส่วนประกอบใดที่เป็น เหล็กหรือปูนเลย แม้แต่สิ่งที่ยึดติดไว้ ด้วยกันยังใช้วิธีการสลักไม้แทนตะปูด้วยซ้ำ
ช่างแกะสลักไม้ก็จะไม่เหมือนใคร ไม่ว่าใครเก่งมาจากไหนก็ ต้องมาเรียนรู้และเริ่มใหม่ที่นี่ทั้งนั้น และคุณเล็กก็จะเป็นคนสอน เป็นคนแนะนำ ให้ตลอด จนเดี๋ยวนี้เรามีช่างที่มีฝีมือในการแกะสลัก และทุกคนก็ไม่เคยท้อ ถึงจะทำงานกันมานานเป็นสิบๆ ปี และก็ไม่เคยถามว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ เราทำไปเรื่อยๆ ว่าจะต้องทำให้เสร็จปีไหน วันไหน ขอให้ทำให้ดีที่สุด ค่อยปรับค่อยแก้กัน ไป แต่ก็ยอมรับว่าเราต้องดูแลรักษาสภาพให้ดีแม้ว่าจะผ่านไปนานเป็นสิบ ยี่สิบปี
ผมถึงกล้าบอกได้ว่า ปราสาทแห่งนี้เมื่อทำจนเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ จะช็อกสายตาคนที่มีโอกาสได้เข้ามาชม เพราะปราสาทจะเป็นสิ่งที่ ท้าทายในความเป็นโลกตะวันตกและโลกตะวันออก และสื่อให้เห็นถึงสิ่งที่ดีงาม ในอดีต ทั้งทางด้านปรัชญา ศาสนา ในเอเชีย งานที่คุณเล็กทำออกมาจึง ถือได้ว่าเป็นงานที่มีมิติ ด้านวิญญาณ มากกว่าที่จะมองว่ามีมิติในเชิงวัตถุ ผมเชื่อว่า มันน่าจะเป็นปราสาทไม้ที่เป็นเรือนไม้ที่ใหญ่ ที่สุด ในโลก ซึ่งแฝงไว้ด้วยความหมายในเชิงปรัชญา และเป็นแลนด์มาร์กแห่งหนึ่ง ที่สำคัญในพัทยา
ครับสุดท้ายนี้ ต้องยอมรับจริงๆว่าผมเองได้มีโอกาสที่จะเข้าชมประสาทสัจจธรรมแล้วถึง ๒ ครั้ง ครับและเป็นครั้งแรกที่เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องจ่ายบัตรค่าเข้าเป็นจำนวนเงินถึง ๕๐๐ บาท ซึ่งเมื่อได้เข้าชมสถานที่แล้วก็ไม่รู้สึกเสียดายเงินกับค่าเข้าชมเลยแม้จะต้องเข้าชมชมอีกเป็นครั้งที่ ๒ แต่ก็ต้องยอมรับอีกว่าตอนแรกๆที่อาจจะแค่รู้สึกว่าเป็นสถานที่หรือเป็นการสร้างของมหาเศรษฐีที่ทำธุรกิจประสปความสำเร็จแล้วต้องการหน้าตาทางสังคมหรือ เป็นการคืนกำไรให้สังคมเพียงเท่านั้น แต่หลังจากได้เดินพิจราณา ได้คิดไตร่ตรองและ ได้ศึกษาประวัติที่มาที่ไปแล้วต้องยอมรับจริงๆครับว่า ปราสาทสัจธรรมที่ผมมองเห็นด้วยสองสายตาเปล่าของผมนี้ ได้สะท้อนถึงหัวใจของผม ถึงความยิ่งใหญ่ ที่ไม่ใช่เพียงแต่ขนาดใหญ่ แต่สามารถสะท้อนถึงจิตวิญญาณ ความตั้งใจของผู้ก่อสร้างจริงๆว่า ปราสาทสัจจธรรม นั้นเป็น สถาปัตยกรรมไม้ ทำด้วยหัวใจ ฝากไว้ให้แผ่นดิน ขอขอบคุณ คุณเล็ก วิริยะพันธ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น