บันทึกความทรงจำของพระเจนดุริยางค์
( ปิติ วาทยะกร )
ชีวประวัติของข้าพเจ้า
บิดาของข้าพเจ้าชื่อ Jacob Feit เป็นชาวอเมริกัน
เชื่อชาติเยอรมัน มารดาของข้าพเจ้าเป็นไทย
บิดาเกิดเมื่อวันที่ ๔
พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๘๔ (ค.ศ. ๑๘๔๔) ที่เมือง Trier ( Treves ) ในประเทศเยอรมนี
แต่ถายหลังสำเร็จการศึกษาเมื่ออายุประมาณ ๑๙
ปีแล้วครอบครัวได้อพยบจากประเทศเยอรมนีไปตั้งภูมิลำเนาอยู่ในสหรัฐอเมริกา
และในคราวสงครามกลางเมืองที่สหรัฐอเมริกา
Civil War 1860 – 1864 สมัยที่ Abraham Lincoln เป็นประธานาธิบดีนั้นก็ได้เข้ารับราชการทหารฝ่ายเหนือในกองทัพสหรัฐอเมริกาผ่านศึกกลางเมืองด้วย
ในราวปี พ.ศ. ๒๔๑๐ (ค.ศ. ๑๘๖๗)
เมื่อสิ้นสงครามแล้วท่านได้เข้ามายังประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยวคนหนึ่งตามวิสัยชายหนุ่ม
เมื่อได้มาพักในกรุงเทพฯชั่วเวลาหนึ่งแล้วท่านก็ได้รับคำเชื้อเชิญจากกงสุลอเมริกา
(หมอจุนดเล S. Chandler )
โดยกระแสรับสั่งให้เข้ารับราชการเป็นครูแตรวงในพระราชสำนักของสมเด็จพระยัณฑูรกรมพระราชวังบวรมหาวิชัยชาญ
(วังหน้า)
เมื่อสิ้นสมัยดังกล่าวนี้แล้วได้ถูกย้ายมาประจำเป็นครุแตรวงทหารบกในสมัยรัชกาลที่ ๕
ตลอดจนมาถึงวันที่ท่านถึงแก่มรรณะกรรมลง คือเมื่อวันที่ ๑ พฤษจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๒ (ค.ศ. ๑๙๐๙) รวมอายุได้
๖๕ ปีเศษ ซึ่งในเวลานั้นสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้าทรงดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพบก
มารดาของข้าพเจ้าชื่อ ทองอยู่ วาทยะกร เกิดในปี พ.ศ. ๒๔๐๑
และถึงแก่กรรมเมื่อ วันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ รวมอายุได้ ๙๓ ปี (เป็นธิดานายปุ๊,
นางเม้า เชื้อชาติรามัญบังคับไทย)
ข้าพเจ้าเกิดเมื่อวันที่ ๑๓ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๔๒๖ (ค.ศ. ๑๘๘๓)
ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะแม เวลาย่ำรุ่ง
ที่บ้านญาติของมารดาตำบลบ้านทวาย ใกล้หัวถนนเวลานี้
เมื่อข้าพเจ้ามารดาได้พามารวมอยู่กับบิดาที่แพ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งเหนือปากคลองหลอด
ในปี พ.ศ. ๒๔๓๓ (ค.ศ. ๑๘๙๐) ข้าพเจ้ารับการศึกษาวิชาสามัญที่โรวเรียนอัสสัมชัญ
(Assumption College )
ในชั้นต้นเข้าเรียนภาษาฝรั่งเศสจนถึง พ.ศ. ๒๔๔๑ (ค.ศ. ๑๘๙๘)จบหลักสูตรในปีต่อมา พ.ศ.
๒๔๔๒ (ค.ศ. ๑๘๙๙) ได้เข้าศึกษาภาษอังกฤษจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๔๓ (ค.ศ. ๑๙๐๐)
รวมเวลาที่ข้าพเจ้ารับการศึกษา ณ โรงเรียนแห่งนี้ได้ ๑๑ ปี บริบูรณ์
ใน พ.ศ. ๒๔๔๔ (ค.ศ. ๑๙๐๓)
ข้าพเจ้าออกจากโรงเรียนอัสสัมชัญโดยมีหนังสือรับรองของท่านอธิการบดีโรวเรยีนนี้นำฝากเพื่อเข้ารับราชการในกรมรถไฟหลวง
แผนกกองเดินรถ (Traffic
Department) และต่อมาในวันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๖ (ค.ศ. ๑๙๑๓)
รวมเวลารับราชการในกรทนี้ได้ ๑๔ ปั กับ ๘ เดือน
ต่อจากนั้นเป็นสมัยรัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณษโปรดเกล้าฯ
ให้ย้ายข้าพเจ้าจากกรมรถไฟหลวงมารับราชการในกรมมหรศพ ในวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๐
(ค.ศ. ๑๙๑๗) ประจำตำแหน่งเป็นผู้ช่วยปลัดกรม กองเครื่องสายฝรั่งหลวง
มีหน้าที่ฝึกฝนอบรมนักดนตรี
ทางการปฏิบัติเครื่องดนตรีสำหรับวงดนตรีฝรั่งหลวงแห่งพระราชสำนัก
ต่อจากนั้นมาอีกประมาณ ๑ เดือนเศษ ข้าพเจ้าก็ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น “
หลวงเจนดุริยางค์ ” ในวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๐
(ค.ศ. ๑๙๑๗)
วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๓ (ค.ศ. ๑๙๒๐)
ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ข้าพเจ้าเป็นปลักกรม
กองดนตรีฝรั่งหลวงและในวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๕ (ค.ศ. ๑๙๒๒)
ก็ได้รับพระราชทานสัญญษบัตรเป็น “ พระเจรดุริยางค์ “
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น